เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ จ.เชียงราย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือว่า ยาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำกระจายไปยังทั่วทุกมุมโลกใช้พื้นที่ภาคเหนือตอนบนของไทยเป็นทางผ่าน 

ในปี 62 สามารถยึดยาบ้าได้ จำนวน 510 ล้านเม็ด เฉพาะพื้นที่ภาคเหนือจับได้ 324 ล้านเม็ด หรือคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดน แต่เจ้าหน้าที่ตามจุดสกัดสามารถจับกุมได้มาก 

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก เพราะยามีราคาถูก ในอดีตยาเสพติดผลิตมาจากฝิ่น แต่ในปัจจุบันผลิตจากสารเคมีที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า อีกทั้งยาบ้าและยาไอซ์มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ซูโดอีเฟดรีน ซึ่งยาบ้ามีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ไอซ์มีส่วนผสมดังกล่าว 80-90 เปอร์เซ็นต์ ยาบ้าจึงมีราคาถูกกว่า ซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ชุมชนต้องช่วยกันดูแลลูกหลานไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือมีช่องทางธรรมชาติที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดใน 3 จุด คือพื้นที่บ้านสันต้นดู่ ซึ่งเดิมเป็นช่องทางค้าขายตามแนวชายแดนระหว่างชาวบ้านในพื้นที่กับชนกลุ่มน้อยในพม่า ต่อมามีการระงับใช้เส้นทางดังกล่าวตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันทหารเป็นผู้ดูแลพื้นที่ แต่ยังมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดใช้ช่องทางนี้ลำเลียงยาเสพติด เพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่ 

ส่วนด้านกิ่วทับยั้งเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนด้านอ.แม่สาย อ.เชียงแสน และอ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน 

ส่วนด่านกิ่วสะไตมีความสำคัญในการสกัดกั้น เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางชายแดนที่เชื่อม 2 พื้นที่ในอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และอ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีการนำยาเสพติดเข้ามาเป็นจำนวนมาก

รายงานข่าวจาก ป.ป.ส. เปิดเผยว่า กองกำลังว้ามีบทบาทสำคัญในการสั่งการหรือจ้างให้ชนเผามูเซอเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดเข้ามาส่งที่ชายแดนประเทศไทย ทำให้สถิติการจับกุมในพื้นที่ดังกล่าวสูงมาก

อ่านข่าวที่เก่ี่ยวข้อง :

• สงครามยาบ้าในเอเชีย บทสรุปเส้นทางการผลิต จำหน่าย และฟอกเงิน
• ยูเอ็นเตือนยาบ้าจาก ‘สามเหลี่ยมทองคำ’ ระบาด