งานเพลงประชาธิปไตย 'รำลึก 24 มิถุนา' คึกคัก-ผู้เข้าร่วมหนุนอุดมการณ์ 'จ่านิว'

ประชาชน นักกิจกรรม นักดนตรี นักสิทธิมนุษยชน นักการเมือง ร่วมงานมหกรรมดนตรีประชาธิปไตยรำลึก 24 มิถุนาฯ ที่ 'จ่านิว' เป็นหนึ่งในผู้ผลักดัน หลายคนยืนยันความเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและประชาธิปไตย ต้องให้ความช่วยเหลือตามกำลัง

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2562 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม สี่แยกคอกวัว มีเวทีดนตรีประชาธิปไตย 24 มิถุนา วันอะไร? ซึ่งเดิมทีเป็นกิจกรรมที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ 'จ่านิว' นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและแกนนำกลุ่ม Startup People ที่ตั้งใจจัดขึ้นก่อนถึงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศกลางเดือนหน้า แต่กลับถูกกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บไปเสียก่อนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เวทีที่สี่แยกคอกวัวมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งพันตรีพุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา ทายาทหัวหน้าคณะราษฎร, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตเลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายอดิศร เพียงเกษ อดีตรัฐมนตรี และ ส.ส. หลายสมัย, นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ รวมถึงกวีและศิลปินอีกมากมาย นำโดยกลุ่มแร็ปเปอร์ชาวไทย Rap Against Dictatorship เจ้าของบทเพลงสะท้อนยุคสมัย"ประเทศกูมี" อันโด่งดัง

ประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปไตยและความเป็นธรรมเข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่นเดียวกับนักสิทธิมนุษยชน, นักเคลื่อนไหว, นักการเมืองและบุคคลสำคัญหลายวงการเข้าร่วมงานเป็นการให้กำลังใจจ่านิว โดยกำหนดการแสดงและจัดกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.จนถึง 22.00 น. และตลอดงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังอยู่บริเวณใกล้เคียง

นายอดิศร เพียงเกษ กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งระบุว่า อันธพาลการเมืองและผู้อยู่เบื้องหลังที่กระทำกับจ่านิว ควรที่จะคำนึงว่าถ้าเป็นเครือญาติหรือบุตรหลานของตัวเองจะรู้สึกยังไง พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย โดยขั้นแรกต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะประเด็น ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.

ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่า 'จ่านิว' โดนรุมทำร้ายเพราะแรงจูงใจทางการเมืองไม่ใช่เรื่องส่วนตัว พร้อมกันนี้เรียกร้องให้หยุดทำร้ายคนเห็นต่าง, วันนี้เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจจ่านิว แม้ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งนายธนาธรเอง ยอมว่ารู้สึกทนไม่ได้กับการกระทำที่ป่าเถื่อนเช่นนี้

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นร้องเพลง และกล่าวถึงการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยเป็นคนสุดท้ายของเวที โดยกล่าวถึงการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งรวมถึง 'จ่านิว' ว่าเป็นภารกิจประวัติศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งยุคสมัยของนายณัฐวุฒิเอง ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้ทำภารกิจของตัวเองตามเงื่อนไขแล้ว โดยต้องรักษาระยะห่าง เพราะอาจจะทำให้คนรุ่นใหม่มีข้อกังขาในการเคลื่อนไหว ว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังโดยเฉพาะฝ่ายการเมือง

พร้อมกันนี้ได้ประณามการกระทำด้วยความรุนแรงต่อผู้เห็นต่าง โดยนายณัฐวุฒิ ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจประชาชนที่รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่มาร่วมในงานวันนี้ พร้อมกล่าวถึงความคืบหน้่าล่าสุดที่จ่านิวจะย้ายจากโรงพยาบาลมิชชั่นไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อเข้ารับการผ่าตัดเลือดที่คั่งบาดแผล