ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน นปช. จี้รัฐบาลแจงให้ชัดเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ ยกเลิกเคอร์ฟิว แค่ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถหยุดความยากจนที่กำลังจะเกิดได้ หวั่นรัฐใช้งบเงินกู้ไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชนอาจส่งผลให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เดินมาถึงจุดปัจจุบันนี้การยกเลิกเคอร์ฟิวก็ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถไปหยุดความยากจนที่กำลังจะเกิดได้แม้จะบอกว่าทดสอบเพียง 15 วันหากมีการระบาดของโควิด-19 อีกก็จะประกาศเคอร์ฟิวใหม่ แต่ตอนนี้เรามาถึงจุดที่มี พ.ร.ก. ฉุกเฉินหรือไม่มี ประชาชนก็ไม่มีความรู้สึกถึงความหวาดกลัวโควิด 19 ขณะเดียวกันจำนวนเงิน ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เหลือของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 หรือเงินกู้จำนวน 1.1 ล้านล้านบาทนั้น ตนมองว่าหากยังไม่สามารถบริหารจัดการอย่างลงตัวให้ตรงกับความเดือดร้อนของประชาชน ความเดือดร้อนนี้ก็จะยิ่งทวีขึ้นตามลำดับ

ส่วนในปี 2564 นั้นตนก็มองว่าในการทำงบประมาณในการวางแผนต่อไปนี้ต้องคิดในสภาวะของประเทศที่ไม่ปกติ พร้อมแนะนำรัฐบาลหากจำเป็นต้องปรับทีมเศรษฐกิจก็ต้องทำ แต่หากยืนยันที่จะให้ทำงานต่อก็ต้องบอกให้ชัดเพราะ หากยังปล่อยให้อยู่ในช่วงกึ่งๆกลางๆ เหมือนอยู่กลางแม่น้ำแบบนี้ทามกลางรอยต่อปีงบประมาณรวมถึง การเยียวยาและ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะวันนี้ทุกคนก็อยากรู้ว่างบประมาณในส่วนเยียวยานั้นเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่, มีประชาชนตกค้างที่ไม่ได้รับการเยียวยาแต่มีคุณสมบัติครบถ้วนยังตกค้างอยู่จำนวนเท่าไร, หลังจากสิ้นเดือนมิถุนายนนี้เอาให้ชัดว่า ไม่สามารถเยียวยาได้ตามที่ประกาศหรือแม้แต่งบประมาณก้อน 4 แสนล้านจะไประงับยับยั้งความยากจนของประชาชนได้อย่างฉับพลันอย่างไร รวมถึงหากงบจำนวนนี้ไม่เกิดการสร้างงานหรือสร้างรายได้ขึ้นอย่างชัดเจนจะทำอย่างไร เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกขณะนี้ประสบปัญหา วิกฤตเศรษฐกิจร่วมกันอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นจากสภาพการเหล่านี้ในการจัดสรรงบประมาณส่วนตัวมองว่าจะมีความจำเป็น หากจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งต้องเร่งรีบตัดสินใจ 

นายจตุพร กล่าวถึงการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ว่า บางคนที่เป็นนายกฯ ส่วนท้องถิ่นก็อยู่ในตำแหน่งมาเกินวาระ และก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นกันเมื่อไหร่ ดังนั้นหากเป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมาบอกว่าเงินงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นหมดไปแล้วนั้นก็ควรจะออกแบบมาให้ชัดว่าจะเลือกตั้งกันวันไหน ซึ่งอาจจะต้องใช้งบประมาณปี 2564 ตนก็เห็นว่าการให้เหตุผลเรื่องงบประมาณว่างบประมาณถูกโยกไปหมดแล้วนั้นไม่มีความชัดเจนและไม่เป็นประโยชน์อะไรกับสถานการณ์ ซึ่งความจริงแล้วการเลือกตั้งท้องถิ่นอาจทำให้คนตื่นตัว ไม่ว่าจะเป็น อบต. เทศบาล อบจ. เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร อาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เพราะบรรดาคนเลือกตั้งทั้งหลายอย่างน้อยก็ต้องมีค่าใช้จ่ายหรือการจ้างงาน ในช่วงที่ต้องฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ 

ส่วนข้อเสนอของซุปเปอร์โพลที่บอกว่ายุบสภาเป็นทางออกการเมืองที่ดีที่สุดนั้นส่วนตัวมองว่าประเทศไทยระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีก็สามารถที่จะยุบสภาได้เป็นเรื่องปกติของการเมืองในประเทศไทยเพียงแต่ในสถานการณ์ที่พรรคการเมือง แตกตัวออกไปตั้งพรรคนั้นส่วนตัวมองว่า เลือกตั้งในกระดานหน้าก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้หากยังไม่แก้ไขกติกาให้เป็นที่เรียบร้อยก็กลับมาที่จุดเดิมกันอีก และสภาพของประเทศก็ไม่พร้อมที่จะอยู่ภายใต้การเมืองแบบเดิม เพราะใครจะคิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาลมาถึงจุดที่ล้มเหลวทุกฝ่าย

นายจตุพร ระบุว่าวันนี้ตนยังมองว่า หากผลีผลามยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งก็ยิ่งจะพบกับทางตัน ดังนั้นเลือกตั้งที่ควรจะเลือกเวลานี้คือการเลือกตั้งท้องถิ่นเพราะกติกาในระดับท้องถิ่นไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่การเลือกตั้งในระดับชาติยังไม่มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นั้น ไม่ว่าเดินไปทางไหนก็มีแต่ล็อกทั้งหมด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาให้ฉีกเท่านั้น และหากไม่คิดเรื่องนี้กันอย่างจริงจังประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้