ไม่พบผลการค้นหา
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ เกิน 2.5 ล้านคนแล้ว ขณะที่มลรัฐฟลอริดาและเท็กซัสเตรียมใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง หลังยอดพุ่งจากการคลายมาตรการปิดเมือง

ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ สูงเกิน 2.5 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ไปแล้วมากกว่า 125,000 ราย โดยมลรัฐฟลอริดาและเท็กซัสเป็น 2 มลรัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ 

มลรัฐฟลอริดารายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อมีมากกว่า 132,000 แล้วและมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,300 ราย และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาถึง 9,585 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่พบผู้ติดเชื้อเกือบ 9,000 คน ถือว่ามียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบทุกวันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา

ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในมลรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เป็นผลมาจากการอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดได้ในช่วงสัปดาห์หลังมานี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฟลอริดาและเท็กซัสจึงกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มธุรกิจต่างๆ อีกครั้ง เช่นเดียวกับมลรัฐเท็กซัสและแอริโซนา

รอน เดอซานติส ผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดาออกมาตรการใหม่ในการควบคุมโรค สั่งให้บาร์ในมลรัฐหยุดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ามาตรการนี้จะรวมไปกับร้านอาหารด้วยหรือไม่

ส่วนรอน ซัวเรส นายกเทศมนตรีเมืองไมอามีกล่าวว่า ขณะนี้พวกเขาลงโทษคนที่ไม่สวมหน้ากากป้องกันโรค และกำลังพิจารณามาตรการอื่นๆ เช่น การขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน

ด้านเกร็ก แอบบอต ผู้ว่าการมลรัฐเท็กซัสประกาศให้ร้านอาหารรองรับลูกค้าในร้านได้เพียงร้อยละ 50 ของเวลาปกติเท่านั้น

ดร.แอนโธนี เฟาชี ที่ปรึกษารัฐบาลสหรัฐฯ ด้านโควิด-19 กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐฯ มี "ปัญหาหนัก" และการแพร่ระบาดรอบนี้เป็นผลจากการที่หลายพื้นที่เปิดให้บริการต่างๆ เร็วเกินไปและประชาชนไม่ทำตามคำแนะนำในการควบคุมโรค

มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปคินส์ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ มีทั้งหมด 2,505,593 คนแล้ว ซึ่งมาจากการที่มีการไล่ตรวจเชื้อคนจำนวนมากขึ้น และอัตราผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นจริงๆ ในบางพื้นที่ ด้านเจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมโรคหรือ CDC ของสหรัฐฯ ประเมินว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงอาจมากถึง 20 ล้านคน หรือมากกว่ายอดที่ได้รับการรับรองแล้วถึง 10 เท่า โดยผู้ติดเชื้อจำนวนมากเป็นคนหนุ่มสาววัยประมาณ 18-34 ปี โดยเฉพาะคนที่อยู่ทางตอนใต้และตะวันตกของประเทศ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยอดผู้ติดโควิด-19 น่าจะสูงเกิน 10 ล้านคนภายในวันนี้ (28 มิ.ย.) ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ และในช่วง 7 เดือนนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วเกือบ 500,000 คน สูงกว่าจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รุนแรงต่อปีราว 2 เท่า

ที่มา : BBC, The Guardian