วันนี้ (19 มิถุนายน 2568) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวผลกระทบต่อภาคการเกษตรต่อกรณีไทย – กัมพูชา ว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงเกษตรฯ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลผลกระทบกับภาคการเกษตร และหาแนวทางที่จะทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดตัวเลขสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาหรือมีการขนส่งผ่านทางกัมพูชาเพื่อส่งออกไปยังประเทศเวียดนามนั้น มีจำนวนและปริมาณไม่มาก โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ไม่ใช่สินค้าภาคการเกษตร ซึ่งทางกัมพูชาน่าจะได้รับผลกระทบในการส่งออกสินค้ามาที่ประเทศไทยมากกว่า เช่น มันสำปะหลัง ประมาณ 7,000 - 9,000 ล้านบาท โดยตนมองว่าน่าจะเป็นผลดีกับราคามันสำปะหลังในประเทศด้วยซ้ำ เพราะภาคเอกชนจะหันมาใช้มันสำปะหลังในประเทศมากขึ้น รวมไปถึงพืชชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาทดแทนกันได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหามันสำปะหลังจากแหล่งอื่นมาทดแทนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ สินค้าเกษตรของไทยส่วนใหญ่ส่งออกไปประเทศจีนมากที่สุด โดยขนส่งผ่านทางประเทศลาว เช่น ทุเรียนเป็นต้น
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่น ๆ เข้าไปช่วยเหลือและระบายสินค้าไปยังแหล่งอื่น ๆ และได้มีข้อสั่งการให้จัดทำแผนระยะกลางและระยะยาวหากเหตุการณ์ตึงเครียดยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ จะมีการประสานกับภาคเอกชนในการรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรไทย แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งก็ต้องขอฝากภาคเอกชน ขอให้ร่วมกันอุดหนุนสินค้าการเกษตรด้วย
“วันนี้อยากจะให้พี่น้องคนไทยมีความสามัคคีกัน และขอให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศ คลายความกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้สบายใจได้ว่า จะไม่มีใครได้รับผลกระทบ และกระทรวงเกษตรฯ จะดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด จะไม่ปล่อยให้เกิดผลกระทบขึ้นอย่างแน่นอน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ทัังนี้ การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา มีมูลค่ารวมในปี พ.ศ. 2567 อยู่ที่ประมาณ 174,530 ล้านบาท (กระทรวงพาณิชย์, 2568) โดยไทยส่งออกไปกัมพูชาเป็นมูลค่า 141,846 ล้านบาท และมีการนำเข้า 32,684 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า 109,162 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ: เครื่องดื่ม, ส่วนประกอบรถยนต์/มอเตอร์ไซค์, เครื่องยนต์, เครื่องจักรกลการเกษตร ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ: มันสำปะหลัง, เศษโลหะ (อลูมิเนียม, ทองแดง), ลวดสายไฟ ฯลฯ ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ไทยส่งออกสินค้าสำคัญไปกัมพูชา อาทิ (1) น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ (2) เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอชที นมถั่วเหลือง (3) น้ำ รวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่น ๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส (4) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียม (5) พาสต้าอื่นๆ ที่สุก อาทิ เส้นหมี่ วุ้นเส้น ขณะที่มีการนำเข้ามันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ แป้งมัน และเอทานอล และส่งต่อไปยังอุตสาหกรรมแปรรูปของไทย