ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ปลื้มมาตรฐานความปลอดภัยการบินไทยทัดเทียมค่าเฉลี่ยโลก ชี้ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบิน-การท่องเที่ยว พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดันให้สำเร็จ

พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจระดับประสิทธิผลของการนำมาตรฐานการบิน ICAO มาใช้บังคับใช้ประเทศ (EI) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 65.07 สูงกว่าค่ามาตรฐานที่ ICAO กำหนดคือร้อยละ 60 หลังจากที่คณะผู้ตรวจสอบของ ICAO เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของไทยอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 13-22 พ.ค.62

“ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ระดับประสิทธิผลของไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จากปี 2558 ที่ ICAO ติดธงแดงมาตรฐานการบินของไทย ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 34.20 ถัดมาเพียง 2 ปี คือ ปี 2560 ประเทศไทยสามารถปลดธงแดงได้สำเร็จ โดยมีระดับประสิทธิผลอยู่ที่ 41.46 และล่าสุดปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 65.07 ซึ่งทัดเทียมกับค่าเฉลี่ยของประเทศสมาชิก ICAO ทั้งหมด 193 ประเทศ ”

รองโฆษกฯ กล่าวว่า ICAO ชื่นชมความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม จริงจัง และเป็นระบบของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่านับเป็นความสำเร็จของทุกฝ่าย พร้อมทั้งขอบคุณ ICAO กระทรวงคมนาคม และผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่ร่วมมือกันจนทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ และยืนยันจะรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง

“นายกฯ ระบุด้วยว่า หาก พ.ร.บ.การเดินอากาศ ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ก็จะทำให้ระดับประสิทธิผลของไทยดีขึ้นไปอีก โดยความสำเร็จนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”

สำหรับการตรวจสอบเต็มรูปแบบของ ICAO ประกอบด้วย 7 ด้าน คือ 1) ด้านกฎหมาย 2) ด้านการจัดองค์กรกำกับดูแล 3) ด้านการออกใบอนุญาต 4) ด้านปฏิบัติการบิน 5) ด้านการเดินอากาศของอากาศยาน 6) ด้านบริการเดินอากาศ 7) ด้านสนามบิน