ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ส.ค.) ผู้ประท้วงในกรุงนีอาเมต่างตะโกนคำขวัญ อันเป็นการประกาศความเป็นศัตรูกับอดีตมหาอำนาจอาณานิคมฝรั่งเศส และกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ซึ่งกำลังพิจารณาการเปิดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อคืนสถานะการปกครองแก่ โมฮาเหม็ด บาซูม ประธานาธิบดีไนเจอร์ที่มาจากการเลือกตั้ง หากการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับผู้นำการรัฐประหารล้มเหลว
ทั้งนี้ ผู้นำรัฐประหารไนเจอร์ได้ประกาศห้ามการชุมนุมประท้วงอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหารได้รับอนุญาตให้ดำเนินการจัดการประท้วงที่สนับสนุนการทำรัฐประหารได้ต่อไป โดยในวันอาทิตย์ ผู้ชุมนุมได้โบกป้ายข้อความว่า “หยุดการแทรกแซงทางทหาร” และ “ไม่คว่ำบาตร” หลังจากที่ ECOWAS ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและการค้าต่อไนเจอร์ ในเวลาเพียง 4 วัน หลังจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา
การชุมนุมต่อต้านรัฐประหารครั้งล่าสุด มีขึ้น 1 วันหลังจากที่ นายพล อับดูราห์มาเน ชีอานี ผู้ปกครองจากกองทัพคนใหม่ ประกาศเตือนว่าการบุกโจมตีไนเจอร์โดยประเทศเพื่อนบ้านจะไม่ใช่การ “เดินเล่นในสวน” ทั้งนี้ ชีอานีกล่าวในคำปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.) ว่า เขาไม่ต้องการ “ยึดอำนาจ” และไนเจอร์จะมีการเปลี่ยนอำนาจกลับไปสู่การปกครองของพลเรือนในเวลาไม่เกิน 3 ปี
ผู้นำคณะรัฐประหารไนเจอร์กล่าวหาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของบาซูม ว่าอยู่เบื้องหลังท่าทีการต่อต้านการรัฐประหารไนเจอร์ของ ECOWAS ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ECOWAS ได้พยายามผลักดันวิธีการทางการทูตครั้งใหม่ อย่างไรก็ดี หลังจากเสนาธิการของชาติสมาชิก ECOWAS ได้เข้าพบกันในกรุงอักกรา เมืองหลวงของกานา เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) ทางกลุ่มซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศกล่าวว่า พวกเขาได้ตกลงกันในวันที่ สำหรับการดำเนินการทางทหารที่อาจเกิดขึ้นต่อไนเจอร์ไว้แล้ว
แม้จะมีคำขู่ในการแทรกแซงไนเจอร์ แต่ ECOWAS ได้ส่งคณะผู้แทนทางการทูตซึ่งนำโดย อับดุลซาลามี อาบูบาการ์ อดีตผู้นำไนจีเรียไปยังกรุงนีอาเม โดยโทรทัศน์ของไนเจอร์เผยภาพที่แสดงให้เห็นว่าสมาชิกคณะผู้แทน ECOWAS ได้จับมือกับบาซูมซึ่งยังคงถูกคุมขัง นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพขณะที่อาบูบาการ์พูดคุยกับชีอานี แต่เนื้อหาในบทสนทนาดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ
ในคำปราศรัยทางโทรทัศน์ของชีอานีเมื่อวันเสาร์ หัวหน้ารัฐประหารไนเจอร์กล่าวหาว่า ECOWAS กำลัง "เตรียมพร้อมที่จะโจมตีไนเจอร์ ด้วยการจัดตั้งกองทัพยึดครอง โดยร่วมมือกับกองทัพต่างชาติ" ทั้งนี้ ชีอานีไม่ได้ระบุว่าเขาหมายถึงประเทศใด “หากมีการโจมตีเรา มันคงไม่ใช่การเดินเล่นในสวนอย่างที่บางคนคิด” นอกจากนี้ ในการแถลงเดียวกัน ชีอานียังประกาศระยะเวลา 30 วันของ "การเจรจาระดับชาติ" เพื่อจัดทำ "ข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม" ในการวางรากฐานของ "รัฐธรรมนูญฉบับใหม่"
ในทางตรงกันข้าม ผู้นำ ECOWAS กล่าวว่าพวกเขาต้องดำเนินการอะไรบางอย่างในขณะนี้ทันที หลังจากที่ไนเจอร์กลายเป็นประเทศที่ 4 ในแอฟริกาตะวันตกนับตั้งแต่ปี 2563 ที่เกิดการรัฐประหารขึ้นต่อจากบูร์กินาฟาโซ กินี และมาลี โดย ECOWAS ตกลงที่จะเปิดการดำเนินปฏิบัติการด้วย "กองกำลังสำรอง" เพื่อเป็นทางเลือกสุดท้ายในการฟื้นฟูประชาธิปไตยในไนเจอร์
ที่มา: