ไม่พบผลการค้นหา
โต๊ะอิหม่าม อ.ยะหา แจงกฎ "ฮูกมปากัต" ใช้แก้ปัญหาสังคม ชาวบ้านยอมรับได้ผล ชี้ตั้งแต่ใช้มาตราการมา 1 ปี ยังไม่มีการจับหนุ่มสาวคู่ใดแต่งงาน ยืนยันยังไม่เคยละเมิดสิทธิใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ สภ.ยะหา จ.ยะลา ออกประกาศ ใช้มาตราการ “ฮูกมปากัต” เพื่อนำร่องจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คู่ชาย - หญิง ที่มิใช่สามีภรรยา ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมและขัดกับหลักศาสนาอิสลาม โดยร่วมมือกับผู้นำศาสนาและคณะกรรมการประจำมัสยิดกลางอำเภอยะหา จ.ยะลา รวมถึงผู้นำชุมชนในพื้นที่ จนประเด็นดังกล่าว กลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และสอบถามถึงการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามหลักรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร

ล่าสุด ที่มัสยิดกลางอำเภอยะหา จ.ยะลา สุทธิมาตร มาหามัด อิหม่ามมัสยิดกลางยะหา เปิดเผยว่า “ฮูกมปากัต” ความหมาย ฮูกม แปลว่ากฎระเบียบ ฮูกมปากัต คือ ความร่วมมือในด้านการบริการดูแลสังคม เพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา โดยครั้งแรกมีประชาชน ร้องเรียนว่า บรรดาเด็ก ๆ หนุ่มๆสาว ๆ วัยรุ่นเกิด การกระทำผิดบางอย่างที่ทางผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ คนอื่นๆ ไม่สบายใจ จึงได้มีดำริที่จะแก้ปัญหาร่วมกับคณะกรรมการมัสยิด ได้มาพูดคุยร่วมกัน เพื่อให้เยาวชนอยู่ในกฎระเบียบ ศาสนา เพื่อให้เกิดความสันติสุขในท้องที่ และตั้ง กฏ “ฮูกมปากัต” โดยมี 4 ฝ่าย เข้าร่วมทั้ง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เทศบาล คณะกรรมการมัสยิด และประชาชนที่สนใจ เพื่อแก้ปัญหา โดยจะเน้นเฉพาะประชาชนที่เป็นอิสลามเท่านั้น ไม่ได้ใช้ทั่วไป ใช้เฉพาะเขตพื้นที่ ที่มัสยิดกลาง อ.ยะหา ดูแลเท่านั้น รวมทั้ง หมู่ที่ 2 บางส่วนที่อยู่ในมาตรการนี้

ด้าน ร.ต.อ.อนุชา แวดอยี กรรมการมัสยิดกลางยะหา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกฎระเบียบ 4 ฝ่าย “ฮูกมปากัต” มัสยิดกลาง อ.ยะหา จ.ยะลา ได้เล็งเห็นความสำคัญของชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ที่มารวมกลุ่มจับคู่ อาจไม่ใช่สามีภรรยา ซึ่งสร้างความลำบากใจให้ชุมชน ผู้ปกครอง ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ให้เบาบางไป โดยใช้แนวคิดหลักยุติธรรมทางเลือก กฎระเบียบชุมชนเป็นกรณีพิเศษใช้ 4 ฝ่ายเข้าร่วม เป็นต้นแบบ จึงรวมกลุ่มประชุมครั้งแรก และครั้งต่อ ๆ มานานกว่า 6 เดือน เพื่อหาข้อสรุป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนอยู่ในระเบียบ จารีตประเพณีศาสนา ห่างไกลยาเสพติด ลดแรงเสียดทานการชักนำของผู้ไม่หวังดี ลดการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงได้ร่างกฎ บทลงโทษของ “ฮูกมปากัต” ขึ้น เริ่มใช้เมื่อ 28 ธ.ค.62 ตั้งแต่ใช้มา จะมีการจับมาไกล่เกลี่ย ทั้ง 2 ฝ่ายก่อน ครั้งแรกให้คำตักเตือน เรียกผู้ปกครอง ผู้ดูแล ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอีหม่าม เพื่อมารับทราบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เสียชื่อเสียง

ร.ต.อ.อนุชา กล่าวว่า ตั้งแต่ใช้มาตราการดังกล่าวมา 1 ปี ยังไม่มีการจับหนุ่มสาวคู่ใดแต่งงาน สำหรับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้น ยืนยันไม่ได้ละเมิดสิทธิ ถ้าพูดคุย อย่างน้อยต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ ด้วย ส่วนข้อบังคับนี้ได้กำชับหนักแน่น ระเบียบนี้ใช้กับมุสลิมเท่านั้น เพื่อปรามการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม ผลตอบรับที่ผ่านมา ชาวบ้านบอกว่าดีขึ้นมาก เกิน 50 % การมั่วสุมหรือแอบอยู่กันตามลำพัง ลดลงจนแทบจะไม่มี ในส่วนของการห่วงใยเรื่องของการที่อาจจะมีผู้แอบแฝง ผู้ไม่หวังดีจะนำมาตราการดังกล่าวไปข่มขู่เรียกทรัพย์ผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น ทางคณะกรรมการที่กำหนดมาตราการดังกล่าว มีรายชื่ออยู่ชัดเจน หรือ สามารถสอบถามไปยัง สภ.ยะหา ได้ว่าผู้ที่แอบอ้างนั้นมีรายชื่ออยู่ในคณะกรรมการหรือไม่ และหากพบหรือมีเบาะแสว่าผู้ใดแอบอ้าง ก็จะดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้นั้นทันที

อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งมาตราการดังกล่าว ถือเป็นการนำร่องในพื้นที่และมีการขอคำแนะนำจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาแล้ว และเห็นชอบให้ดำเนินการตามความเหมาะสมได้ ซึ่งการดำเนินการตลอดปีที่ผ่านนั้น ได้มีการประกาศและประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครอง ผู้นำท้องที่ให้รับทราบโดยทั่วกันก่อนนำมาใช้ เพื่อจัดระเบียบสังคม อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่คอยสอดส่องดูแลด้วยเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง