ไม่พบผลการค้นหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อยู่ในอำนาจผู้นำสูงสุดมาแล้ว 7 ปีเต็ม

ตั้งแต่เข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึง ตอนนี้ ปี 2564 

ระยะเวลาการเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะเทียบเท่า “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตั้งแต่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 

แต่ยังน้อยกว่า จอมพลถนอม กิตติขจร ที่อยู่ในตำแหน่ง 10 ปี 6 เดือน และจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่เป็นนายกฯ ยาวนานที่สุดแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 6 ปี นับแต่ พ.ศ.2481-2487 และช่วงที่ 2 ตั้งแต่ 2491-2500 กินเวลา 9 ปี 5 เดือน

ณ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ บันทึกประวัติศาสตร์เป็นผู้นำทหารที่ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ที่อยู่ในอำนาจยาวนานลำดับที่ 4 อยู่ในอำนาจ 7 ปี 

แต่โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในปีที่ 8 ไม่ได้อยู่ในภาวะราบรื่น แต่อยู่ในสถานการณ์โหด - หิน 

ไล่สถานการณ์ร้อนที่รุมเร้าอยู่รอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ มีทั้งโควิด-19 ยังไม่ลดดีกรีความรุนแรง แม้ว่าการจำนวนการติดเชื้ออยู่ในภาวะทรงตัว แต่ยังอยู่ในระดับสูง การบริหารจัดการของภาครัฐเริ่มเข้าที่เข้าทาง การหาเตียงให้ผู้ป่วยโควิดเริ่มไหลลื่น 

คสช.jpg

แม้ความหวังของรัฐบาลอยู่ที่ “วัคซีน” ที่จะเข้ามา “บิ๊กล็อต” ในช่วง 7 มิ.ย. แต่กลับกลายเป็นตำบลกระสุนตก ดราม่าระบบการจัดคิวฉีดวัคซีน ผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” แต่กลับไม่พร้อมให้ใช้บริการเท่าที่ควร 

แถมยังมีเกมขัดขาเรื่องไป - มา เรื่องวอล์กอินฉีดวัคซีน ตามแผน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เจ้ากระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ดันถูก พล.อ.ประยุทธ์ เบรกกลางอากาศ ที่ใช้ระบบ Register on site มาแทนที่ 

ในจังหวะที่ “อนุทิน” ก้มหน้ารับคำบัญชานายกฯ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

แต่ลูกพรรคภูมิใจไทย “ภราดร ปริศนานันทกุล” ส.ส.อ่างทอง ในสังกัดของ “เสี่ยหนู” ควันออกหู ออกมาตำหนินายกฯ ลุงตู่ แทน 

สะสมความขมขื่นในพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านี้ปมร้าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกประกาศพิเศษรวบ 31 อำนาจจากรัฐมนตรี มาให้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะแก้ปัญหาโควิดฉุกเฉินแก้โควิด-19  ก็มีเสียงกระแทกมาจาก “ศุภชัย ใจสมุทร” แกนนำพรรคภูมิใจไทยมาแล้วหนหนึ่ง 

อีกทั้ง ยังมีปัญหาคาใจระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ กับ พลังประชารัฐ อันเป็นฐานกำลังของ พล.อ.ประยุทธ์ จากปมคำสั่งแบ่งงานรัฐมนตรี ภายใต้โปรเจกต์ “ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” ที่มอบหมายให้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดิมดูแลพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงราย และหนองบัวลำภู 

ให้มาดูแลพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่พอใจอย่างมาก

หลายเรื่องมาขมวดตรงที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ควันออกหู เรื่อง “รัฐมนตรีนินทา” นายกฯ จนประกาศในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ประยุทธ์   อนุทิน 13155953000000.jpg

“มีรัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผมในที่ประชุมบางวง ให้ระวังตัวไว้ด้วย ผมเป็นคนตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงาน จะชอบหรือไม่ชอบผม อย่านินทาให้ผมได้ยิน ถ้าผมได้ยินอีก ผมจำเป็นต้องปรับออก จะริบโควตานั้นมาเป็นของผมเอง ระวังตัวไว้ด้วยละกัน ผมไม่เคยทำให้ท่านเสียหาย”

“ผมมีทีมงานคอยดูเฟซบุ๊กทุกท่าน ผมไม่วางใจและไม่สบายใจ ใครก็ตามที่สร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง ทุจริต ถ้ามีปัญหาผมจะพิจารณาเอาออก ผมจะไม่ให้โควตาพรรค จะดึงมาเป็นโควตาผม” 

แต่ที่สุดแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ยอมถอย รื้อคำสั่งแบ่งงานใหม่ ทว่าในชีวิตจริงรอยร้าวเกิดขึ้นแล้วยากจะประสาน 

ขณะที่ฝ่ายค้าน 6 พรรค ก็อาศัยความง่อนแง่นภายใต้การบริหารจัดการโควิด-19 อภิปรายงบประมาณ ประหนึ่งไม่ไว้วางใจรัฐบาล

และว่ากันในระยะยาว ยังไม่มีใครรู้ว่าวัคซีนหลายสิบล้านโดส ที่จะทยอยเข้ามาทั้ง ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา สปุตนิกไฟว์ จะมีปัญหาเข้ามาได้ครบหรือไม่ หรือ รัฐบาลจะสามารถฉีดวัคซีนได้ครบ 50 ล้านคน ตามแผนไว้หรือไม่ 

และในเดือน ก.ค.นี้ ที่จะเปิดเกาะภูเก็ต ตามแผน “ภูเก็ตแซนบ็อกซ์” และ 1 ตุลาคมเปิดจังหวัดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้อีก 9 จังหวัด จะมีปัญหาอีกหรือไม่ แถมปมปัญหาบริหารจัดการงบประมาณที่เพิ่งกู้อีก 7 แสนล้านบาท มาเยียวยา ปรับปรุงระบบสาธารณสุข รักษาการจ้างงานจะได้ผล 

หรือ ละลายแม่น้ำ เหมือนงบเงินกู้ 1 ล้านล้านก่อนหน้านี้ ยังต้องรอการประเมิน แต่พรรคฝ่ายค้านก็ง้างมีดรอไว้แล้ว 

ส่วนอุณหภูมิการเมืองนอกสภา แม้โควิด-19 จะเบรกอารมณ์ม็อบ 3 นิ้ว ไม่ให้ออกมาก่อการประท้วงรัฐบาล แต่จับอารมณ์กลุ่มอื่นๆ ก็มีกระแส “หน่ายพล.อ.ประยุทธ์” เริ่มก่อตัว โดยเฉพาะอดีตคนเคยรักสมัย กปปส.

นิติธร ประชาชนคนไทย A3B-DD5D92B473CB.jpeg

อย่างคณะแกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นิติธร ล้ำเหลือ ปรีดา เตียสุวรรณ์ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พิชิต ไชยมงคล โกศล รักษ์ประชาไท และภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ

จากชื่อเสียงเรียงนาม ก็พอเห็นเงาเบื้องหลังที่เป็นตัวจักรสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบางรายใกล้ชิดกับอดีต สมาชิกแม่น้ำ 5 สาย สายปฏิรูป  

ไม่นับเครือข่าย “ไทยไม่ทน”  ในนามสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายของญาติวีรชนพฤษภา 2535 ซึ่งมี “จตุพร พรหมพันธุ์” เป็นหนึ่งในดาวไฮปาร์ค

พล.อ.ประยุทธ์ ในปีที่ 7 จึงรากเลือด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง