USA Today รายงานว่าขณะนี้โรคไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดอย่างหนักทั่วทุกภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ Centers of Disease Control and Prevention (CDC) ชี้ว่าขณะนี้มีการแจ้งจากเกือบทุกมลรัฐว่าจำนวนการติดต่อและระบาดของไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ของผู้ที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์ต่างๆ ณ ปัจจุบันคือ 3.7 ล้านคน โดยมีผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว 32,000 คน และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,900 ราย

CDC ยังระบุอีกด้วยว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้ารับการรักษาป่วยจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B/Victoria ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มักจะพบในช่วงท้ายของฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ หรือปลายเดือนมกราคม ไม่ใช่ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมเช่นนี้ และแม้ว่าทุกคนมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเช่นเดียวกัน แต่เท่าที่มีการเก็บข้อมูลพบว่าเด็กและวัยรุ่นตอนต้นเป็นกลุ่มที่ได้รับเชื้อมากที่สุด

รายงานประจำสัปดาห์ของ CDC พบว่าขณะนี้โรคไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดอย่างหนักในเปอร์โตริโก และ 30 มลรัฐของสหรัฐฯ เช่น แอละแบมา อะแลสกา แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฟลอริดา นิวยอร์ก และโอเรกอน ซึ่งการติดต่อและแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงแตะเส้นมาตรฐานของประเทศแล้วตลอดช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่ากำลังจะเกินเส้นมาตรฐานนั้นไป เพราะประชากรเกือบครึ่งของประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคนี้อยู่

ด้านเว็บไซต์ Medscape ระบุว่าอัตราสะสมของการแพร่กระจายของอาการป่วยในลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นจาก 2.9 คน เป็น 3.9 คนต่อประชากร 100,000 คนแล้วในสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งกลุ่มผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมีอัตราสะสมสูงที่สุดคือ 9.4 คนต่อประชากร 100,000 คน และกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี อยู่ที่ 7.5 คนต่อประชากร 100,000 คน

อย่างไรก็ตาม ข่าวดีของเหตุการณ์นี้ก็คือไวรัสไข้หวัดใหญ่มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกทดสอบในห้องแล็บมีการตอบสนองได้ดีกับยารักษาไข้หวัดใหญ่ 4 ชนิด ซึ่งเป็นตัวยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของหรัฐฯ หรือ FDA เรียบร้อยแล้ว โดย CDC ยืนยันว่าขณะนี้ประชาชนยังสามารถไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้อยู่ เพราะยังไม่สายเกินไปสำหรับฤดูกาลไข้หวัดในปัจจุบัน