ไม่พบผลการค้นหา
ศิลปินสตรีทอาร์ท-นักแสดง-บริษัทเอกชนในสหรัฐฯ รณรงค์หนุนเลือกตั้ง ทั้งแจกโปสเตอร์-ติดแฮชแท็กในสื่อสังคมออนไลน์ และอนุญาตให้พนักงานลาไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอมเดือน พ.ย.นี้

เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ สหรัฐฯ มีกำหนดจัดการเลือกตั้งกลางเทอมทั่วประเทศ เพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกรัฐสภา โดยกลุ่มรณรงค์ภาคประชาสังคมและคนดังในวงการบันเทิงฮอลลีวูดจำนวนมาก รวมถึงบริษัทเอกชนกว่า 300 แห่งของสหรัฐฯ ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนให้ประชาชนอเมริกันออกไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง 6 พ.ย. 2561

ศิลปินสตรีทอาร์ท ArtBitch มีการเคลื่อนไหวล่าสุด เพราะเปลี่ยนชื่อในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มาเป็น VoteBitch ชั่วคราว เพื่อรณรงค์กระตุ้นให้คนออกไปเลือกตั้งกลางเทอม โดยมีการเผยแพร่ไฟล์ไปสเตอร์ที่มีข้อความว่า Please Clean Up After Your Democracy ให้คนดาวน์โหลดไปติดตามพื้นที่สาธารณะต่างๆ พร้อมถ่ายรูปขึ้นสื่อโซเชียลและติดแฮชแท็กรณรงค์ Vote #ItActuallyMatters เรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เพราะการใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหนึ่งในหนทางที่ประชาชนจะกำหนดแนวทางและคัดเลือกผู้แทนไปทำหน้าที่ในสภาคองเกรส

(ป้ายรณรงค์ใช้ข้อความเชิงตั้งคำถาม "ไม่ชอบทิศทางที่ประเทศกำลังมุ่งไปข้างหน้า?" - จงไปใช้สิทธิเลือกตั้ง)

ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน นักแสดงชื่อดังในวงการบันเทิงฮอลลีวูด เช่น มาร์ค รัฟฟาโล, ทอม แฮงก์, เฟธ ฮิล, ทิม แม็กกรอว์, เทย์เลอร์ สวิฟต์, อลิสซา มิลาโน รวมถึงผู้อำนวยการสร้างอย่างไดแอน อิงลิช ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องการเลือกตั้ง พร้อมสนับสนุนให้คนออกไปใช้สิทธิชี้ชะตาผู้จะมาดำรงตำแหน่งในสภาในอนาคต

นักวิเคราะห์ในสื่อสหรัฐฯ หลายรายระบุว่า การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ไม่พอใจนโยบายและทำงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาเลือกผู้แทนที่ตนเองต้องการให้ไปทำหน้าที่คัดค้านหรือตรวจสอบถ่วงดุลย์ทรัมป์ ซึ่งที่ผ่านมามีการออกนโยบายหลายประการที่ไม่คำนึงถึงสิทธิของลูกหลานผู้อพยพที่เกิดในสหรัฐฯ คนชั้นกลางที่มีแนวคิดเสรีนิยม รวมถึงผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการตั้งกำแพงภาษีของทรัมป์และการประกาศสงครามการค้ากับจีน

(ชอบที่ประเทศกำลังเป็นอยู่ไหม ถ้าใช่ ไปโหวตให้อยู่ต่อ - ถ้าไม่ชอบสิ่งที่ประเทศกำลังเป็นอยู่ จงไปโหวตให้ออก)

ผลสำรวจความคิดเห็นของแกลลัปโพล ระบุว่าพรรคฝ่ายค้านเดโมแครตมีแนวโน้มจะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร หรือสภาล่าง แต่พรรครัฐบาลรีพับลิกันน่าจะได้รับชัยชนะในสภาสูง โดยมีการประเมินว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันน่าจะได้รับเลือกเป็น ส.ว.ประมาณ 52 ที่นั่ง เพราะผู้สนับสนุนแนวคิดชาตินิยมจำนวนมากยังคงสนับสนุนทรัมป์และมีการรณรงค์ให้ผู้สนับสนุนรีพับลิกันออกไปใช้สิทธิในครั้งนี้กันมากๆ เช่นกัน ส่วนกรณีเดโมแครต โพลประเมินว่าน่าจะได้ที่นั่งประมาณ 48 ที่นั่งในสภาสูง

นอกเหนือจากกลุ่มคนดังและนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่แล้ว ยังมีความคืบหน้าใหม่ๆ จากผู้ประกอบการเอกชน โดยบริษัทชื่อดังของสหรัฐฯ ทั้งอูเบอร์, Lyft, ลีวายสเตราส์ รวมถึงร้านอาหาร Cava ประกาศอนุญาตให้พนักงานสามารถลางานไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้โดยไม่ตัดเงินค่าจ้าง โดยเจ้าของบริษัทบางรายให้เหตุผลว่าต้องการให้คนออกไปใช้สิทธิกันเยอะๆ เพราะสหรัฐฯ เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ถึงครึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีผู้ประเมินว่า ผู้หญิงอเมริกันอาจจะออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้มากขึ้น อ้างอิงโพลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักที่ดำเนินการเก็บข้อมูลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลของนายทรัมป์มีนโยบายและเรื่องอื้อฉาวที่ส่งผลสะเทือนต่อผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ทรัมป์ใช้วาจาดูหมิ่นเสียดสีผู้หญิงหลายคนที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของเขา รวมถึงการเหยียดหยามผู้หญิงที่ออกมาคัดค้าน 'เบรทท์ คาวานอห์' ผู้ถูกกล่าวหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทรัมป์เสนอชื่อแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุด 

ที่มา: CNBC/ CNN/ Variety/ VOX

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: