ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ แนะสื่ออย่านัดทีมหมูป่าออกสื่อเปิดใจติดถ้ำหลวง หวั่นคำถามสื่อกระทบความรู้สึก อยากให้เยาวชนได้เรียนหนังสือ โยนคณะกรรมการภาพยนตร์ชี้ขาดหากฮอลลีวูดขอทำภาพยนตร์ แจงแทน ผบ.ศอร. ปัดตำหนิอุปกรณ์ช่วยเหลือของทีมอีลอน มัสก์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ขณะนี้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำเร็จไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากขั้นตอนการดูแลทีมหมูป่าของแพทย์ ก่อนส่งทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัย และใช้ชีวิตตามปกติ ต่อจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปฟื้นฟู และปรับสภาพพื้นที่โดยรอบวนอุทานยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ รัฐบาลได้เห็นแหล่งทรัพยากรน้ำสำคัญอีก 1 แหล่ง ซึ่งรัฐบาลจะหาแนวทาง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรที่อยู่ในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันที่ผ่านมา การทำงานเป็นไปตามมาตรฐานสากล มีการบูรณาการช่วยเหลือร่วมกัน เพื่อเป็นการแสดงออกของคนไทยทั้งประเทศที่ได้มีความร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งตนเอง ได้เกาะติดตามข่าวสารมาตลอดทุกๆ 15 นาที และเห็นการทำงานของสื่อทุกสำนักทั้งไทยและต่างชาติ ที่ร่วมกันเสนอข่าวตลอดภารกิจ 18 วัน 

เบรกสื่อสัมภาษณ์ทีมหมูป่ากระทบชีวิตส่วนตัว

นายกรัฐมนตรี ยังขอความร่วมมือสื่อมวลชน อย่านำเอาทีมหมูป่าทั้ง 13 คน มาสัมภาษณ์หรือถ่ายทอดเรื่องราวตลอดการติดในถ้ำ และปล่อยให้ใช้ชีวิต เรียนหนังสือตามปกติ เพราะทุกคนยังเป็นเยาวชน บางครั้งการถ่ายทอดอาจมีภูมิต้านทานน้อย และหวั่นว่าทุกคำถามอาจจะสร้างผลกระทบต่อความรู้สึก

โดยยกกรณีสื่อต่างชาติ นำเสนอบทสัมภาษณ์ของคนที่ติดอยู่ในเหมืองประเทศชิลีมาเป็นตัวอย่าง ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน กำลังใจก็ควรให้กับคนที่เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งคนที่เข้าไปปฏิบัติงานช่วยเหลือในถ้ำและนอกถ้ำ รวมถึงความร่วมมือจากต่างชาติที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ที่มีโอกาสได้พูดคุยระหว่างลงพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งได้เห็นความตั้งใจของนายอีลอน มัสก์ ที่ทุ่มเทเดินทาง พร้อมนำอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่มาช่วยในภารกิจ โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ส่วนกรณีที่นายอีลอน มัสก์ ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงการแถลงข่าวของ ผบ.ศอร.เมื่อค่ำวานนี้ ที่ระบุว่าเรือดำน้ำจิ๋วไม่สามารถใช้งานได้จริง นั้น เชื่อว่าอาจจะมีการสื่อสาร หรือ เสนอข่าวออกไปคลาดเคลื่อน พร้อมเชื่อ ผบ.ศอร. ไม่มีเจตนาตำหนิอุปกรณ์ของนายอีลอน มัสก์

อีกทั้งการกู้ภัยในครั้งนี้ มีความสำคัญกับชีวิตของคน ดังนั้น จึงขออย่าไปพูดให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพราะรัฐบาลไทยยินดีกับทุกความร่วมมือที่ต่างชาติส่งมา เพราะบางอันจะใช้งานในภารกิจไม่ได้ แต่ถือเป็นน้ำใจที่หยิบยื่นให้กัน 

เล็งเลี้ยงขอบคุณทีมช่วยเหลือ โยนคณะกรรมการภาพยนตร์ชี้ขาดฮอลลีวูด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า แม้ที่ผ่านมาตนเองจะมีภารกิจสำคัญหลายอย่าง แต่ก็ติดตามและมอบหมายให้ ผบ.ศอร.เป็นผู้บัญชาการ และกำหนดแผนงานทุกอย่าง โดยย้ำทุกการตัดสินใจ ได้รายงานให้ตนเองรับทราบตลอดเวลา ในฐานะผู้บัญชาศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี หากสถานการณ์ไม่ขยายวงกว้าง หรือเป็นสถานการณ์ใหญ่ก็จะมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ โดยรัฐบาลจะเป็นฝ่ายสนับสนุน ซึ่งวันนี้ต่างชาติได้แสดงความยินดี และรัฐบาลไทยได้ทำหนังสือขอบคุณ พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือภารกิจครั้งนี้ ส่วนงานเลี้ยงขอบคุณ จะมีการพิจารณาอีกครั้ง โดยจะจัดในวัน เวลาที่เหมาะสม หลังจากสถานการณ์ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ

ส่วนกรณีที่ฮอลลีวูด จะนำเอาภารกิจการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 คนไปถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า ต้องดูก่อน เพราะการทำภาพยนตร์จะต้องขออนุญาต รวมถึงนำโครงเรื่องมาให้ดูก่อน ว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยจะมีคณะกรรมการของกระทรวงวัฒนธรรม และคณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติพิจารณาตรวจสอบ เพราะการเข้าไปถ่ายภาพคนจะต้องขออนุญาต รวมถึงใช้สถานที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติหรือไม่ด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง