ไม่พบผลการค้นหา
ร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ไม่มีน้ำปลาใช้ปรุงอาหาร หลัง FDA สั่งแบนน้ำปลาจากบริษัทในไทย 4 บริษัท หลังพบกระบวนการผลิตอาจมีสารที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

กรมส่งเสริมการส่งออกระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รายงาน สถานการณ์น้ำปลาไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ประกาศห้ามนำเข้าน้ำปลาจากไทยรวมทั้งสิ้น 4 บริษัท จนทำให้ ปัจจุบัน ร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ จำนวนประมาณ 5,000 ร้าน เริ่มประสบปัญหา ขาดแคลนน้ำปลาจากไทยแล้ว บางร้านแก้ปัญหาโดยการใช้เกลือแทน เนื่องจากเมื่อทางร้านอาหารใช้น้ำปลาจากประเทศอื่นๆ นอกจากจะทำให้รสชาติผิดเพี้ยนแล้ว ยังทำให้กลิ่นของอาหารแปลกไปจากที่ควรด้วย

รายงานจากกรมส่งเสริมการส่งออกระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2561 FDA ได้จัดให้บริษัทโรงน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จำกัด (Thai Fishsauce Factory (Squid Brand) Co., Ltd.) เข้าอยู่ในบัญชี Import Alert # 16-120 และกักกันสินค้า น้ำปลาที่นําเข้าจากบริษัทฯ (Detention Without Physical Examination) อีกราย เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบ HACCP สําหรับสินค้าอาหารทะเล

ซึ่งจากการตรวจสอบ Import Alert ปรากฏว่า มีบริษัทผู้ส่งออกสินค้า น้ำปลาของไทยที่อยู่ภายใต้การกักกันสินค้านี้ทั้งสิ้น 4 บริษัท ได้แก่

1) Saigon International (2004) จ.ราชบุรี

2) Tang Sang Hah จ.สมุทรปราการ (ทิพรส)

3) Thai Fishsauce Factory (Squid Brand) Co., Ltd. (ตราปลาหมึก)

4) Thang Nguan Hah 92 หมู่ 1 วัดปลาคู่อําเภอเมือง สมุทรสงคราม

บันทึกแบบเต็มหน้าจอ 23102561 113743.jpg

ทั้งนี้ น้ำปลาของไทยเริ่มถูกกักกันและห้ามนำเข้าไปยังสหรัฐฯตั้งแต่ปี 2557 หลังจาก เจ้าหน้าที่ของ FDA ดำเนินการตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำปลาเครื่องหมายการค้า ‘ทิพรส’ ของบริษัททั่งซังฮะ (Tang Sang Hah) ตามกฎระเบียบของ FDA ที่จะต้องสุ่มตัวอย่างตรวจสอบ พบว่ากระบวนการผลิตน้ำปลาของบริษัททั่งซังฮะ อาจก่อให้เกิดสาร Histamine และสารพิษจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Butolinum ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยสําหรับสินค้าอาหารทะเลภายใต้กฎระเบียบ HACCP

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า การห้ามนําเข้าสินค้าน้ำปลาจากไทยส่งผลกระทบต่อมูลค่าและสัดส่วนการตลาดของน้ำปลาไทยในสหรัฐฯ อย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาน้ําปลา “ทิพรส” มีสัดส่วนการตลาดในสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 1 คือราวร้อยละ 60-70 ของการส่งออกน้ำปลาไทยทั้งหมดมายังสหรัฐฯ จนฮ่องกงเข้ายึดสัดส่วนการตลาดไปเกือบหมดหลังจากปี 2557 มาในปี 2561 นี้น้ําปลา “ตราปลาหมึก” ก็ถูกห้ามนําเข้าสินค้าเพิ่มอีกรายเนื่องจากผู้ผลิตน้ําปลาไทยมีกระบวนการผลิตในลักษณะเดียวกันทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้อาจจะส่งผลให้น้ําปลาไทยหายไปจากตลาดสหรัฐฯ ได้

หากท้ายที่สุดน้ําปลาไทยไม่สามารถวางจําหน่ายในตลาดสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อาหารไทยในตลาดสหรัฐฯ อย่างมาก เนื่องจากน้ำปลาเป็นเครื่องปรุงแต่งรสอาหารที่สําคัญมากของอาหารไทยและควรอย่างยิ่งที่ร้านอาหารไทยจะใช้น้ำปลาที่ผลิตจากไทยเพื่อคงความเป็นไทยและให้ได้รสชาติที่ดั้งเดิม 

อ่านรายงาน สถานการณ์น้ำปลาไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา