นพ. สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากสถิติของโรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ ปี 2560 พบพระสงฆ์ที่อาพาธเข้ารับการรักษาด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคเบาหวานซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เนื่องจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลินจากการที่ตับอ่อนผลิตไม่พอใช้หรือผลิตแล้วใช้ไม่ได้ตามปกติ ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง ส่งผลทำให้หลอดเลือดเสื่อม เสียหาย และทำลายอวัยวะอื่นๆ เช่น ไต สมอง หัวใจ เป็นต้น จากการที่ทีมสหวิชาชีพ โรงพยาบาลสงฆ์ ทำการศึกษาและประเมินผู้ป่วยเบาหวาน ที่มารับบริการ พบพระสงฆ์อาพาธด้วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

โดยสถิติผู้ป่วยนอก ปี 2558 พบจำนวน 1,488 รูป  ปี 2559 จำนวน 1,599 รูป และปี 2560 จำนวน 1,779 รูป ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าพระสงฆ์ที่อาพาธบางรายต้องตัดอวัยวะบางส่วน เช่น นิ้วเท้าบางนิ้วหรือหลายนิ้วไปจนถึงตัดถึงข้อเท้า ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคพบว่าพระสงฆ์ขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพอนามัยทั้งจากการควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือด ประกอบกับวัตรปฏิบัติในการบิณฑบาตเป็นประจำ ต้องเดินเท้าเปล่าทำให้เกิดแผลได้ง่าย และเมื่อเกิดแผลแล้วไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เป็นแผลเรื้อรังถึงขั้นต้องตัดอวัยวะบางส่วน 

ด้าน นพ. สมนึก อร่ามเธียรธำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ ระบุว่า โรงพยาบาลสงฆ์ได้จัดรูปแบบการดูแลของทีมสหวิชาชีพถวายความรู้พระสงฆ์อาพาธด้วยโรคเบาหวานให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการดูแลสร้างเสริมสุขภาพตนเอง รวมถึงการออกกำลังกาย เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะโรคเบาหวานและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ถูกวิธีและปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน โดยนำความรู้มาร่วมกันพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในหน่วยงานโรงพยาบาลสงฆ์แบบครบวงจรโดยทีมสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักกายภาพบำบัดและโภชนากร 

ทั้งนี้โรงพยาบาลสงฆ์ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสงฆ์ โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อขอความคิดเห็นจากพระเถระผู้ใหญ่ได้รับคำแนะนำว่า ให้พระสงฆ์ที่อาพาธด้วยโรคเบาหวาน สามารถใส่รองเท้าที่เป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพได้ในขณะออกบิณฑบาต เพื่อป้องกันการเป็นแผลที่เท้าจากการเดินเท้าเปล่าตามที่แพทย์แนะนำ