ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำเกาหลีเหนือให้คำสัญญาในการเดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์รวมถึงความร่วมมือในการหารือแนวทางการปลดอาวุธกับสหรัฐฯ อีกครั้ง ขณะที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ในวันที่ 18-20 กันยายนนี้

ชุง อึยยอง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงของเกาหลีใต้ หัวหน้าคณะตัวแทนของเกาหลีใต้ที่ไปเจรจาการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า 'เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นชอบในการทบทวนปฏิบัติการณ์ในข้อตกลงพันมุมจอม รวมไปถึงการเจรจาการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวในอนาคตด้วย นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพในระยะยาวให้เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ที่ผู้นำคิม จองอึนให้การยืนยันถึงการดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์เพื่อต้องการสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ผู้นำเกาหลีเหนือยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการให้ความร่วมมือกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ'

การเดินทางไปเกาหลีเหนือของชุง อึยยองและคณะนั้นมีขึ้นเมื่อวันพุธที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาเพื่อเจรจาถึงการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ครั้งที่ 3 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 18-20 กันยายนนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่กรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ และคาดว่าจะใช้สถานที่ในเขตอุตสาหกรรมเคซงในเกาหลีเหนือเป็นที่พูดคุยระหว่าง 2 ผู้นำ

ชุง ยังกล่าวอีกว่า ผู้นำเกาหลีเหนือรู้สึกผิดหวังที่ประชาคมระหว่างประเทศเห็นว่าเกาหลีเหนือไม่ได้มีความตั้งใจการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และคิมจองอึนยังระบุว่าหลังจากที่เกาหลีเหนือรื้อถอนฐานทดสอบนิวเคลียร์พุง-กเย-รี เกาหลีเหนือก็ไม่มีการดำเนินโครกงารทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีก

นอกจากนี้คิมจองอึลยังระบุว่า ทางเกาหลีเหนือคาดหวังว่าการดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์นี้จะเสร็จสิ้นก่อนการหมดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนมกราคมปี 2021

ทั้งนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมารายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธและรวมถึงยังต่อต้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยการถ่ายโอนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในเรือแตละลำ เช่นเดียวกับการถ่ายโอนถ่านหินที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังพยายามจัดหาอาวุธและมีการขายอาวุธขนาด รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการทหารไปยังลิเบีย เยเมนและซูดาน โดยผ่านตัวกลางต่างชาติ 

ที่มา straitstimes / yonhup