ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปรองรับ ไทยแลนด์ 4.0 เผยภาครัฐบกพร่องการให้บริการ ชี้ต้องแก้ไขระเบียบวิธีการและจิตสำนึกควบคู่กับดิจิทัลและกฎหมาย ยอมรับบ้านพักตุลาการ ไม่ผิดกฎหมาย แต่กระทบความรู้สึกคนในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวก่อนเริ่มการประชุมว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้บอกกับประชาคมไปแล้วว่า ประเทศไทยมีการปฏิรูปประเทศอย่างไร เพื่อให้เป็นประเทศไทยที่มีความทันสมัย โดยไม่ลืมผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ยังปรับตัวไม่ทัน ส่วนวาระการประชุมวันนี้มีความสำคัญเพราะปัญหาต่างๆนั้นเกิดขึ้นมานาน โดยเฉพาะการให้บริการประชาชนของภาครัฐ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรเกิดมาได้นานแล้วและไม่จำเป็นต้องมารอรัฐบาลนี้หรือคสช. จึงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่า เป็นความบกพร่องที่มีมานานในระบบ ดังนั้นจะต้องทำให้เร็วและทำให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะมีหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งระเบียบวิธีการปฏิบัติ การสร้างจิตสำนึกให้ข้าราชการ การปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการใช้ดิจิทัลเข้ามาเสริม และการแก้ไขกฎหมายที่ไม่ทันสมัย  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปต้องทำให้ประชาชนเข้าใจให้ได้ว่า ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ไม่เช่นนั้นวันนี้ก็จะต้องกลับมาเป็นแบบเดิม ราวกับว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยเข้ามา 4 ปี ทั้งนี้ ตนเข้าใจความปรารถนาดีของทุกคน แต่ถ้าลองมานั่งตรงนี้ในแบบที่ตนเองทำอยู่ทุกอย่างต้องเริ่มจากกฎหมายทั้งสิ้น จึงต้องสร้างความเข้าใจกัน ยกตัวอย่างกรณีปัญหาบ้านพักตุลาการที่จังหวัดเชียงใหม่ แม้ยอมรับว่ากฎหมายไม่ผิด แต่ความรู้สึกของคนในพื้นที่ เป็นเรื่องของป่าในมุมมองของประชาชน แล้วรัฐบาลจะทำอย่างไร ขอความกรุณาช่วยกันคิดด้วย

ส่วนผลประชุมในวันนี้คณะกรรมการรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการในสองประเด็นคือ การปฎิรูประบบราชการ มีความก้าวหน้า 3 ด้าน คือ 1.การปรับปรุงประสิทธิภาพบริการภาครัฐ โดยเตรียมดำเนินการเพิ่มเติมใน 3 เรื่อง ประกอบด้วยธุรกิจ 1.)พาณิชย์นาวี ให้บริการแบบวันสตอปเซอร์วิส ด้านแรงงานทางทะเล การพัฒนาระบบอีเซอร์วิส การบริการ และจัดทำหลักสูตรกลาง ด้านพาณิชย์นาวีให้กับสถาบันการศึกษา 2.ด้านใบอนุญาติการเกษตร ซึ่งจะปรับปรุงการอนุญาติครอบครองสารเคมี เพื่อนำมาใช้คลุกเมล็ดพันธ์พืช เพื่อป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ตลอดจน สร้างแอปพริเคชั่น ตรวจสอบข้อมูลขึ้นทะเบียน และการต่ออายุใบสำคัญต่างๆ และ 3.การบริหารจัดการคิวโรงพยาบาล เพื่อให้มีระบบ คิวกลาง สำหรับนัดเข้ารับการรักษา ระบบแจ้งเตือนก่อนวันนัด  แจ้งขั้นตอนการรับบริการตั้งแต่ต้นจนจบ  

2.)ด้านการพัฒนาและรังสรรค์นวัตกรรมในรูปใหม่ 3.) ด้านการเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทอรนิกส์ องค์การมหาชน จะระบุตำแหน่งให้บริการ ประชาชน ประมาณ 4 หมื่นจุด ในเดือนพฤษาคม ยกเลิกสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน จากหน่วยงานผู้ให้บริการ พร้อมเปิดใช้แอปพลิเคชันบอกข้อมูลบริการ ในเดือนสิงหาคม จากนั้นในเดือนตุลาคม เริ่มยกเลิกสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล เป็นต้น 

ที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าปฎิรูปกฎหมาย ที่ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดปรบปรุง หรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ และดำเนินธุรกิจประชาชน จำนวน 10 คณะ พิจารณากฎหมาย 27 เรื่อง