ต่างประเทศ
จีนได้ที-แนะสหรัฐฯ ศึกษาแบบอย่าง กม.คุมปืนและนโยบายสิทธิฯ จีน
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ของจีนระบุว่า สหรัฐฯ มักกล่าวหาว่าประเทศอื่นละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ในทางกลับกัน มีชาวอเมริกันจำนวนมากถูกยิงตายในประเทศมากกว่าทหารอเมริกันที่ถูกฆ่าตายในสงครามของสหรัฐฯ ทั้งหมด และบท บก.ดังกล่าวยังแนะนำให้สหรัฐฯ เรียนรู้การจำกัดสิทธิปืนจากจีน เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนภายในประเทศ ซึ่งเป็นการพาดพิงเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้นในสหรัฐฯ
แต่จีนนั้นมีกฎที่เข้มงวดอยู่แล้วในการควบคุมสิทธิพลเรือนในการครอบครองอาวุธปืน ซึ่งช่วยป้องกันการก่ออาชญากรรมและเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนภายในประเทศ โดยสหรัฐฯ ควรถอดบทเรียนจากจีนและปกป้องสิทธิมนุษยชนของประชาชนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
โกลบอลไทม์ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกไปจากการควบคุมการครอบครองอาวุธปืน เพราะสิทธิในชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน และสิทธิในการครอบครองปืนไม่ควรเหนือกว่าสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของประชาชน
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์บุกกราดยิงใน ร.ร.มัธยมในฟลอริดา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มตัวแทนนักเรียนมัธยมเข้าพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เขากำลังพิจารณาข้อเสนอแนะให้ครูสามารถพกอาวุธปืนขณะอยู่ในโรงเรียนได้ เพื่อป้องกันตัวและปกป้องนักเรียนหากเกิดเหตุการณ์กราดยิง
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเพิ่มเติมว่า การจู่โจมที่เกิดขึ้นภายใน 3 นาทีนั้น ถ้ารอตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุจะใช้เวลากว่า 5- 8 นาทีซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป ดังนั้นแล้วถ้าครูมีอาวุธปืนติดตัวก็จะสามารถตอบโต้คนร้ายและช่วยเหลือนักเรียนได้ทันที
ขณะที่นาย เวย์น ลาแปร์ รองประธานสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NRA แถลงระหว่างเข้าร่วมการประชุมด้านการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในสหรัฐฯ (CPAC) ประจำปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน โดยเขาสนับสนุนแนวคิดของนายทรัมป์ว่าครูในโรงเรียนของสหรัฐฯ ควรจะได้รับการฝึกฝนการใช้อาวุธปืนและสามารถเก็บปืนไว้ในโรงเรียนได้ เพื่อใช้ต่อสู้กับคนร้ายที่ก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียน และ NRA ยินดีที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนไปอบรมครูตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วสหรัฐฯโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นับตั้งแต่เดือนตุลา 2560 ที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงตามสถานที่ต่างๆ ในสหรัฐฯ รวม 3 เหตุการณ์ โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2560 เกิดเหตุกราดยิงในเทศกาลดนตรีที่ลาสเวกัส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 เกิดเหตุกราดยิงภายในโบสถ์แบบติสท์ ในรัฐเท็กซัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 คน และบาดเจ็บมากกว่า 20 คน ขณะที่เหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนมัธยมในฟลอริดาครั้งนี้ มียอดผู้เสียชีวิต 17 คน
อ่านเพิ่มเติม
