ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและโรงพยาบาลขอนแก่น ทำจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคการเมือง ให้กำหนดเรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน หลังประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกและโรงพยาบาลขอนแก่น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในคณะที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันการบาดเจ็บ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โดยการรักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุของโรงพยาบาลปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าปีละประมาณหนึ่งล้านคน และส่วนใหญ่จะพิการมากกว่าหายเป็นปกติ ทำให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ภาคตะวันออกและภาคกลาง เป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด อันดับหนึ่งอยู่ที่จังหวัดระยอง ซึ่งพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย ทำให้มีแนวคิดที่ต้องตั้งสถาบันที่ดูแลเรื่องอุบัติเหตุโดยเฉพาะ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 

ทั้งนี้มีความพยายามนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับหลายหน่วยงาน เช่น การสอดแทรกความรู้ด้านกฎจราจร ความปลอดภัยทางถนน ในการเรียนการสอน ของสถาบันการศึกษา อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่ต้องการนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งสื่อมวลชนมีความสำคัญในการนำเสนอรายละเอียดความสำคัญ โดยขอให้ช่วยกันเสนอต่อรัฐบาลให้เร่งจัดตั้งสถาบันความปลอดภัยทางถนน โดยด่วน ช่วยกันเสนอให้รัฐบาลกำกับติดตามให้มีการบังคับใช้กฎหมาย โดยนำเทคโนโลยีมาสนับสนุน และเอาผิดผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด สื่อสารถึงทุกหน่วยงาน องค์กร ประชาคม ประชาสังคม ให้สร้างมาตรการความปลอดภัยทางถนนภายในทุกองค์กร 

ด้านนพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ ผู้จัดการแผนงานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลกด้านความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า สถิติการเสียชีวิตของคนไทยจากอุบัติเหตุ ที่ผ่านมาไม่มีแนวโน้มลดลง มีแต่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองควรนำปัญหาอุบัติเหตุเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรค ดังนั้นจึงอยากเสนอจดหมายเปิดผนึกถึงทุกพรรคการเมือง ให้พิจารณาเป็นนโยบาย โดยผลักดันตามแนวทางดังนี้

ขอเรียกร้องให้พรรคการเมือง ทำให้การพัฒนาของประเทศไทยยั่งยืนตามที่ให้คำสัญญาไว้กับ UN การมองเป้า SDGs หรือ Global Target Indicators มี 12 ตัวชี้วัด สำคัญ ที่ระบุกรอบเวลาชัดเจน ถ้าทำได้การตายลดลงกว่าครึ่งหนึ่งแน่นอน ที่สำคัญต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของประเทศไทยใหม่ ยกตัวอย่าง PACT ของอังกฤษ ทุกพรรคการเมืองทิ้งความเป็นการเมืองไว้ที่หลัง แต่ยึดความปลอดภัยของประชาชน มาก่อน เอาประโยชน์ของ ปชช.เป็นตัวตั้ง และอยากให้พรรคการเมืองประกาศเป็นวาระทางการเมือง ทำให้เป็นนโยบายการเมือง ให้การแก้ไขปัญหาจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระสำคัญและพิจารณาเรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของพรรค

"ในอาเซียน ไทยตายนำโด่ง เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว มีจำนวนรถมากกว่าเรา แต่ตายน้อยกว่าเรา บรูไนตัวเลขกระโดด แต่ตาย 30 กว่าคนต่อปีเท่านั้น ขณะที่สิงคโปร์ตายลดลงทุกปี เพราะมองวิสัยทัศน์ 50 ปี ข้างหน้า ความเจริญของประเทศจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าคนวัยทำงานเสียชีวิตไป จะโตไปทั้งความปลอดภัย ด้านทรัพย์สิน สุขภาพ ให้ความสำคัญกับวัยแรงงานมาก ส่วนบรูไน มีหน่วยงานหลักรับผิดชอบชัดเจน ตามแผ่นเสนอ ซึ่งไทยมีความแตกต่างทางความคิดมาก แต่เป็นไปได้หรือไม่ เรื่องการตายของพี่น้องประชาชนคนไทยจากอุบัติเหตุ เป็นจุดเริ่มต้นการทำงานร่วมกันทางการเมือง เพราะฉะนั้นจะยอมได้หรือไม่ ว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะมีพรรคการเมืองใดเสนอแผนความปลอดภัยทางถนน แม้แต่ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ไม่มีแผนนี้" นพ.วิวัฒน์ กล่าว

นพ.วิวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากคลายล็อคทางการเมืองมากกว่านี้ จะประสานงานยื่นจดหมายเปิดผนึกอีกครั้งกับทุกพรรคการเมือง เพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลกว่าด้วยการป้องกันการบาดเจ็บและส่งเสริมความปลอดภัย ครั้งที่ 13 (Safety 2018- The 13th World Conference on Injury Prevention and Safety Promotion) ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติ ไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร ภายใต้ Theme: Advancing Injury and Violence Prevention Towards SDGs ซึ่งจะเป็นเวทีของการพัฒนาองค์ความรู้ และความก้าวหน้าด้านวิชาการในการดำเนินงานด้านการป้องกันการบาดเจ็บและส่งเสริมความปลอดภัย และการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพสูงทัดเทียมกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงการบูรณาการการดำเนินงานกับพันธมิตรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ในด้านการป้องกันการบาดเจ็บและส่งเสริมความปลอดภัย เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป