“ฮาคีม อัล-อาไรบี เป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายซึ่งได้รับสิทธิคุ้มครองอย่างเป็นทางการจากประเทศออสเตรเลียแล้ว โดยเฉพาะเขาเองก็เป็นคนในวงการฟุตบอลเหมือนพวกเราด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงมีความสนใจและอยากจะเป็นกระบอกเสียงอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเหลือเขาครับ”

มิตติ หรือ 'บิ๊กฮั่น' ของแฟนสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด บอกกับวอยซ์ออนไลน์ ถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจโพสต์อธิบายเรื่องราวของนายฮาคีม อัล-อาไรบี ชาวบาร์เรนซึ่งได้สถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียแต่มาถูกจับกุมที่ ตม. ไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561

แม้ว่าด้านหนึ่งเขากำลังเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคในสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ แต่เขาเลือกจะโพสต์และใช้ช่องทางรณรงค์ผ่านเพจสโมสรฟุตบอลที่มีผู้ติดตามอยู่กว่า 720,000 แอคเคาท์ เพื่อสื่อสารกับคนสนใจกีฬาฟุตบอลแทน ด้วยเหตุผลว่า “มันน่าจะมีผลสะเทือนมากกว่า”

“ในขณะนี้ผมพยายามที่จะเชิญชวนเพื่อนๆ ในวงการฟุตบอล น้องๆ นักฟุตบอล รวมไปถึงแฟนคลับ แต่เสียงมันอาจจะยังไม่ดังมากเพราะผมคิดว่าเรื่องตรงนี้ มันยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการและทางการไทยเองก็กำลังพยายามกลบกระแสเรื่องนี้อยู่ ซึ่งป็นเรื่องที่ผมคิดว่าเราต้องพยายามช่วยกัน”

มิตติกล่าวว่า เขาอยากเรียกร้องในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์

“ต้องบอกว่าเราก็รัก เคารพในสิทธิของตัวเองเหมือนกัน เราก็อยากฝากในฐานะคนไทย ว่าอยากให้ให้ทุกท่านที่มีส่วนในการพิจารณาและมีส่วนในการตัดสินใจกรณีนี้ได้ช่วยมองบนพื้นฐานมนุษยธรรมและบนพื้นฐานความจริงว่าเขาไม่ได้มีความผิดอะไรนะครับ และอยากให้ทุกท่านได้ช่วยกันมองถึงสิทธิมนุษยชนมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”

ในฐานะที่ยังทำหน้าที่ประธานสโมสรเชียงรายฯ ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ และในฐานะที่เป็นประธานสโมสรฟุตบอลที่มีผู้เล่นเป็นชาวต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งพม่า บราซิล และเกาหลีใต้ เขาคิดว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่เชื่อมโยงคนเข้าด้วยกันได้มากที่สุดประเภทหนึ่ง และความใกล้ชิดนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับประเด็นสิทธิมนุษยชน ซึ่งมนุษย์ทุกคนล้วนมีสิทธิที่ต้องเคารพและปกป้อง

“วันนี้มันอาจจะมองดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ผมคิดว่าถ้าวันหนึ่งเราเกิดเหตุการณ์แบบนั้น.. เพราะจริงๆ แล้ววันนี้สิทธิมนุษยชนในบ้านเรา 4-5 ปีที่ผ่านมาเราก็มีปัญหากับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการออกเสียง สิทธิในการชุมนุม แต่วันนี้เราควรต้องใส่ใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย”

สิทธิมนุษยชนไม่ได้ไกลตัว มันก็เหมือนฟุตบอลนั่นแหละ

เขาแสดงความกังวลถึงอนาคตของนายฮาคีม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังจะพิจารณาส่งตัวหรือไม่ส่งตัวนายฮาคีมกลับประเทศบาร์เรน ซึ่งนายฮาคีมต้องคดีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการประท้วงรัฐบาลและทำลายทรัพย์สินของรัฐในช่วงอาหรับสปริง จนกระทั่งเจ้าตัวถูกจับกุม และระบุว่าถูกทำร้ายและข่มขู่ว่าจะทำให้ไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีกตลอดชีวิต

“นักฟุตบอลควรได้อยู่ในสนามและที่สำคัญ เขาหนีออกมาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว” – นี่คือข้อความที่มิตติย้ำในการโพสต์รณรงค์หลายๆ ครั้งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ในฐานะที่เราเป็นสโมสรฟุตบอล และฮาคีม อัล-อาไรบี เองก็เป็นนักฟุตบอล ความเชื่อมโยงก็คือ กีฬาฟุตบอลน่าจะเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมที่สุดในโลก มันกีฬาที่สะท้อนให้เห็นความสามัคคี ความสัมพันธ์อันดี มันสามารถสร้างให้คนๆ หนึ่ง รู้จักคนอีกคนหนึ่งได้ แล้วสามารถทำให้เกิดความสัมพันธ์และสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน และวันนี้ความที่เราเป็นทีมฟุตบอลคนหนึ่ง นักฟุตบอล สตาฟโค้ชก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราอยากเรียกร้องให้คุณฮาคีมได้มีอิสรภาพ ให้เขาสามารถกลับมาเตะฟุตบอลได้อีกครั้งหนึ่ง สามารถมีอิสรภาพในการเลือกใช้ชีวิตของเขาได้

แม้วันที่สัมภาษณ์ เชียงรายยูไนเต็ดจะพ่ายให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไป 3-1 ประเดิมการแข่งขันออมสินแชมเปียนลีก แต่เขาไม่ได้มองเพียงผลแพ้หรือชนะของเกม แต่เขาเชื่อว่ากีฬาฟุตบอลเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือ สื่อสารและร่วมสร้างความตระหนักในประเด็นสิทธิมนุษยชนได้ ไม่เพียงแต่กรณีของนักบอลลี้ภัย แต่รวมถึงกรณีอื่นๆ ด้วย

“ไม่เพียงแต่กรณีของคุณฮาคีม ผมคิดว่าเราสามารถจะใช้กีฬาฟุตบอลเรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้กับกรณีต่อๆ ไปถ้าจะเกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่อยากให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว” กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ นอกเหนือจากสโมสรเชียงรายยูไนเต็ดแล้ว ยังมีนักกิจกรรมทางสังคม รวมไปถึงองค์กรรณรงค์ด้านสิทธิมนุษชนในไทยร่วมกันรณรงค์ให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนายฮาคีม

ขณะที่ทีมเชียงรายฯ ซึ่งลงแข่งในนัดนี้ (2 ก.พ.) ต้องเปลี่ยนความตั้งใจเดิมที่จะให้นักเตะสวมเสื้อรณรงค์ #SaveHakeem ลงสนาม เนื่องจากกฎของฟีฟ่า แต่ทางทีมกำลังดำเนินการขออนุญาตรณรงค์ในนัดต่อๆ ไป โดยนัดนี้ แฟนๆ เชียงรายฯ อาสากางแผ่นป้ายแทนนักฟุตบอลไปก่อน

ข้อเท็จจริงกรณีฮาคีม

·        ถูกออกหมายจับโดยทางการบาร์เรนข้อหาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและทำลายทรัพย์สินของทางการ

·        เจ้าตัวอ้างว่าถูกซ้อม-ทำร้ายร่างกายขณะที่ถูกควบคุมตัว

·        เดินทางออกจากประเทศได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากออสเตรเลียเมื่อปี 2560

·        เดินทางมาประเทศไทยเพื่อฮันนีมูน แต่ถูก ตม. ไทยควบคุมตัวในวันที่ 27 พ.ย. 2561 โดยทางการไทยระบุว่ามีหมายแดงของอินเตอร์โพล

·        หมายดังกล่าวถูกยกเลิกแล้ว

·        11 ธ.ค. 2561 ถูกนำตัวมาขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

·        มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวอย่างต่อเนื่อง ในบรรดาผู้เรียกร้องมีทั้งนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย, เลขาธิการฟีฟ่า, อดีตกัปตันฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลียเจ้าชายอาลี บิน อัล-ฮุสเซน แห่งจอร์แดน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลจอร์แดน เป็นต้น

·        ทางการบาร์เรนส่งจดหมายขอให้ไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับไปรับโทษ และศาลมีคำสั่งให้เบิกตัวฮาคีมมาศาลในวันจันทร์ที่ 4 ก.พ. 262 เวลา 8:30 น. เพื่อสอบถามว่าจะยอมถูกส่งตัวตามคำขอหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้่อง

ต่างชาตินัดชุมนุมจี้ปล่อย 'ฮาคีม' แต่อัยการยื่นศาลไทย ขอส่งตัวข้ามแดนให้บาห์เรน

เชียงรายยูไนเต็ดเตรียมรณรงค์ #SaveHakeem นัดแข่งเสาร์นี้-เจ้าชายจอร์แดนร่วมจี้ 'ปล่อยฮาคีม'

'มิตติ' ย้ำค้านไทยส่ง 'ฮาคีม' กลับบาห์เรน หวั่นอันตรายกับนักฟุตบอล