ไม่พบผลการค้นหา
สามีภรรยาชาวออสเตรเลียเผยกับสื่อต่างชาติว่าเดินทางมาไทยตั้งแต่ปี 2560 และติดปรสิตโปรโตซัวหลังกินผัดไทยที่ห้างใน จ.ภูเก็ต แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าร้อยละ 25 ของผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ และไม่ใช่ทุกคนที่จะป่วยหนัก

เว็บไซต์เพิร์ธนาว และ Yahoo News Australia สื่อออสเตรเลีย รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของสเตซีย์ บาร์นส์ และไรอัน พริกก์ คู่สามีภรรยา วัย 32 และ 39 ปี ซึ่งระบุว่าทั้งคู่ล้มป่วยหนัก ทั้งมีไข้ ท้องเสีย เวียนศีรษะ เพลียและน้ำหนักลด หลังจากรับประทาน 'ผัดไทย' ระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ตของไทยช่วงเดือน ก.ค.2560 โดยย้ำว่าเป็นผัดไทยในฟู้ดคอร์ตของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ไม่ใช่ผัดไทยจากร้านอาหารข้างทาง

บาร์นส์เปิดเผยกับสื่อออสเตรเลียว่าตนเองและสามีเดินทางกลับประเทศทันทีที่ล้มป่วย แต่อาการป่วยยังเกิดขึ้นต่อเนื่องอยู่นานหลายเดือน และพบแพทย์ไปแล้ว 3 ราย แต่ไม่สามารถรักษาอาการป่วยได้ และแพทย์แจ้งกับทั้งคู่ให้ 'ยอมรับสภาพ' จนกระทั่งทั้งคู่ตัดสินใจไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จึงได้รับแจ้งว่าอาการป่วยของทั้งคู่เกิดจากปรสิตโปรโตซัว 'ไดเอนตามีบา ฟราจิลิส' (D. fragilis) จึงรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ควบคู่กับให้ธาตุเหล็ก ทำให้อาการดีขึ้นในที่สุด จนสามารถออกมาให้ข้อมูลกับสื่อได้ 

ก่อนที่จะเดินทางมาไทย ทั้งคู่มีธุรกิจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบคลีนและการจัดการโภชนาการ ซึ่งทำรายได้ต่อเดือนประมาณ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 2.1 แสนบาท) แต่หลังเดินทางกลับจากไทยและป่วยเรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก เพราะบางวันอาการหนักจนไม่มีแรงจะลุกขึ้นจากเตียง และบางวันมีอาการเหม่อลอย ไม่มีสติ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ พริกก์จึงให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การเดินทางครั้งนั้น 'เปลี่ยนแปลงชีวิต' แต่พวกเขาจะไม่กลับไปเที่ยวประเทศแถบเอเชียอีกแล้ว 

จากกรณีดังกล่าว ศาสตราจารย์ไมล์ส บีดแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในออสเตรเลีย ระบุว่า แพทย์ส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าพยาธิโปรโตซัวชนิดนี้ไม่ทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรง ผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 25 ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมา และอาจจะทำให้แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุได้อย่างถูกต้อง 

บีดแมนระบุว่า โปรโตซัวชนิดนี้จะฝังอยู่ในลำไส้ของคนได้นานระยะหนึ่ง แต่ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือไม่มีภูมิคุ้มกันจะมีอาการหลักๆ คือ มีไข้ต่ำ ท้องเสีย และเวียนศีรษะ โดยอาจจะมีบางกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง 

อย่างไรก็ตาม สื่อออสเตรเลียไม่ได้ยืนยันว่า 'ผัดไทย' เป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ล้มป่วยจริงหรือไม่ เพราะโปรโตซัวตัวนี้พบได้ในอาหารและน้ำ แต่ระบุได้ว่า ทั้งคู่ป่วยเพราะโปรโตซัว D. fragilis

ข้อมูลด้านจุลชีวและปรสิตวิทยาในเว็บไซต์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ระบุด้วยว่า D. fragilis เป็นพยาธิที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน สามารถพบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในเขตร้อน ทำให้เกิดอุจจาระร่วง อุจจาระมีมูกหรือมีเลือดปะปน มีอาการปวดท้อง ท้องอืด คันบริเวณทวารหนัก มีไข้ต่ำๆ และมีสมมติฐานว่าเชื้อชนิดนี้อาจอาศัยกับไข่พยาธิ เช่น ไข่พยาธิเข็มหมุด หรือไข่พยาธิไส้เดือน 

นายกฯ สั่งหน่วยงานตรวจสอบ เผยทานผัดไทไม่เคยป่วย

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงเรื่องการทานผัดไทยแล้วป่วย ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ ว่ามันเกิดจากอะไร กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอยู่ ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีบอกว่า " เราก็ทาน ก็ไม่เห็นเป็นอะไรซึ่งไม่รู้ว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนนั้นไปทานที่ไหน กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสอบสวนถึงข้อเท็จจริง เพราะตอนนี้มีเพียงการพูดถึงในสื่อ ยังตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อีกครั้ง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: