ไม่พบผลการค้นหา
มติที่ประชุม กกต. ชี้ 'ดอน ปรมัตถ์วินัย' ส่อขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี ปมให้คู่สมรสถือครองหุ้นสัมปทาน เป็นลักษณะต้องห้ามตาม รธน. เตรียมส่งคำร้องให้ ศาล รธน.ตีความ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ และเดลินิวส์ออนไลน์ ต่างรายงานข่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีมติเสียงข้างมาก เห็นว่าการถือครองหุ้นของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 264 ประกอบมาตรา 187 ที่บัญญัติไม่ให้รัฐมนตรีถือครองหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือในกรณีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากหุ้นที่ถือครองให้แจ้งประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและให้โอนหุ้น จนอาจเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 และขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักกฎหมายของทางสำนักงานกกต. ดำเนินการยกร่างคำร้องเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

โดยเรื่องดังกล่าวมาจากการที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้ยื่นร้องต่อ กกต. เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2560 ขอให้ กกต.ตรวจสอบการถือครองหุ้นสัมปทานของ 9 รัฐมนตรี ประกอบนายดอน นายอดิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายพิเชฐ ดุรงคเวโรรจน์ รมว.ดิจิทัล นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงส์ รมว.พาณิชย์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการในขณะนั้น พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงานในขณะนั้น หลังรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อ 6 เม.ย. 2560 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญทำให้ความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดหรือไม่

ทั้งนี้ กกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นตรวจสอบ และมีรายงานว่าคณะอนุกรรมการได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบ ต่อ กกต.ว่า การถือครองหุ้นของรมต. 8 คนนั้นไม่มีปัญหาเห็นควรที่ กกต.จะยุติเรื่อง มีเพียงของนายดอนที่อาจมีปัญหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคู่สมรสถือครองหุ้นในธุรกิจอยู่เกินกว่าร้อยละ 5 และไม่มีการแจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด  

ข่าวเกี่ยวข้อง :