ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงพาณิชย์ วอนประชาชนอย่าซื้อหน้ากากอนามัย-เจลล้างมือกักตุน หวั่นขาดแคลนหนัก เตรียมเชิญผู้ผลิตหารือพรุ่งนี้ (3 ม.ค.63) พร้อมส่งทีมออกตรวจ หากพบโก่งราคาเจอโทษหนัก

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) กรมฯ ได้เชิญผู้ผลิตและผู้นำเข้าหน้ากากอนามัยเกือบ 20 ราย พร้อมด้วยผู้ผลิตเจลล้างมือ ผู้ผลิตแอลกอฮอล์รายใหญ่กว่า 20 ราย มาประชุมหารือ เพื่อติดตามสอบถามถึงปริมาณสตอกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ที่อยู่ในมือของผู้ผลิตและผู้นำเข้าขณะนี้มีอยู่จำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ความต้องการใช้ของผู้บริโภค เพื่อใช้ป้องกันไวรัสโคโรนาและฝุ่น PM 2.5 หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากรมฯ ได้มีการหารือผู้ผลิตและผู้นำเข้าหน้ากากอนามัยไปบ้างแล้ว และได้รับทราบถึงปริมาณสินค้าที่มีอยู่ โดยยืนยันปริมาณหน้ากากอนามัยประเทศไทยมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการและใช้ได้ไปอย่างน้อยอีก 4-5 เดือนอย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้พบผู้บริโภคจำนวนมากไปหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือในร้านค้าทั่วไป สินค้าไม่ได้หมดหรือมีราคาแพงเกินจริง แต่เกิดจากผู้บริโภคมีความตื่นตัวป้องกันไวรัสโคโรนาและฝุ่น PM 2.5 จึงมีการซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ เก็บไว้ใช้จำนวนมากและเกินความจำเป็น เพราะเกรงว่าสินค้าจะหมดและมีราคาแพง ทำให้ปริมาณหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอล์เกิดการขาดแคลนในตลาดบางพื้นที่ หรือบางพื้นที่ยังพอมีแต่ราคาแพงมากไปนั้น ซึ่งความจริงการใช้หน้ากากอนามัยหากกลุ่มผู้เป็นไข้หวัดหรือจะเข้าไปแหล่งชุมชนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ป้องกันการติดเชื้อและป้องกันฝุ่น PM 2.5 โดยปกติประสิทธิภาพการใช้หน้ากากอนามัย 1 ชิ้นอยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง หากทุกคนไม่ซื้อเก็บกักตุนมากเกินความจำเป็นปริมาณหน้ากากอนามัยจะมีใช้อย่างเพียงพอแน่นอน

จุรินทร์ลงพื้นที่ดูหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลการใช้และป้องกันไวรัสโคโรนาและฝุ่น PM 2.5 ในการสวมใส่และการใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง คนไทยใช้หน้ากากอนามัยเดือนละ 30 ล้านชิ้น แต่ช่วงนี้อาจเพิ่มเป็น 40-50 ล้านชิ้น หากไม่ผลิตเพิ่มสตอกของผู้ผลิตทุกรายที่มี 200 ล้านชิ้น จะเพียงพอใช้ได้อีก 4-5 เดือน แต่ขณะนี้ทุกรายเร่งผลิตเพิ่มและผลิตต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง จนโรงงานบางแห่งต้องเปิดรับสมัครคนงานจำนวนมาก จึงไม่ต้องกังวล ดังนั้น ประชาชนไม่ควรซื้อเพิ่มให้ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าซื้อกักตุนอาจทำให้ไม่เพียงพอ ถ้าคิดง่าย ๆ เฉพาะคนในกรุงเทพฯ มี 10 ล้านคน ซื้อเก็บไว้คนละ 10 ชิ้น ต้องใช้มากถึง 100 ล้านชิ้น ปริมาณก็จะไม่เพียงพอ 

นอกจากนี้ ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยหลายรายแจ้งความจำนงจะเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ของประชาชน แต่อาจต้องใช้เวลาการผลิต จึงขอความร่วมมือประชาชนไม่ต้องซื้อสินค้าต่าง ๆ ไปเก็บกักตุนไว้มาก เพราะเวลานี้ทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์และร่วมกันดูแลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หากประชาชนไม่ซื้อสินค้าเกินความจำเป็น เชื่อว่าสินค้าจะมีใช้อย่างเพียงพอ แต่หากพบพื้นที่ใดฉวยโอกาสโก่งราคาขายสินค้าเกินความจำเป็นร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ ซึ่งขณะนี้กรมฯส่งสายตรวจออกตรวจทุกพื้นที่อยู่แล้วทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศอยู่แล้ว

ที่มา : สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :