ไม่พบผลการค้นหา
นิด้าโพล เผยผลสำรวจคน Gen Y กับการเลือกตั้ง พบส่วนใหญ่รับไม่ได้กับเศรษฐกิจตกต่ำ รองลงมาคือการทุจริตคอร์รัปชัน และหวังว่าหลังเลือกตั้งผ่านไปเศรษฐกิจจะดีขึ้น มีการส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน และพัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “Gen Y กับการเลือกตั้ง 2562” ระหว่างวันที่ 3 – 6 ธ.ค. 2561 จากประชาชนที่มีอายุระหว่าง 21 – 38 ปี

โดยจากการสำรวจเมื่อถามถึง นโยบายที่คน Gen Y อยากเห็นจากพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 66.53 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 32.83 ระบุว่า นโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 30.62 ระบุว่า นโยบายการควบคุมราคาสินค้า ลดการผูกขาด ร้อยละ 20.09 ระบุว่า นโยบายพัฒนาด้านการศึกษา และยกระดับมาตรฐานการศึกษา ร้อยละ 19.86 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ ร้อยละ 18.51 ระบุว่า นโยบายการกระจายอำนาจ กระจายงานและรายได้ ไม่ให้กระจุกตามเมืองใหญ่ ร้อยละ 9.18 ระบุว่า นโยบาย ด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค ร้อยละ 7.99 ระบุว่า นโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างคนจนกับคนรวย ร้อยละ 4.51 ระบุว่า นโยบายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาประเทศ FinTech , Big DATA , Blockchain ร้อยละ 2.85 ระบุว่า นโยบายการลดงบประมาณของทหาร ยกเลิกเกณฑ์ทหาร และร้อยละ 0.16 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นโยบายการจัดการด้านคมนาคม

สำหรับ เรื่องที่คน Gen Y คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.02 ระบุว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ รองลงมา ร้อยละ 15.27 ระบุว่า เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 13.05 ระบุว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองของคนในประเทศ ร้อยละ 8.15 ระบุว่า เป็นเรื่องระบบการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ ร้อยละ 6.65 ระบุว่า เป็นเรื่องปัญหาสังคม (ความยากจน การกระจายรายได้ อาชญากรรม ยาเสพติด) ร้อยละ 4.27 ระบุว่า เป็นเรื่องการปฏิวัติ/การทำรัฐประหาร และเรื่องการไม่มีการเลือกตั้ง ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 3.16 ระบุว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และร้อยละ 0.08 ไม่แน่ใจ และไม่ระบุ ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ด้าน สิ่งที่คน Gen Y คาดหวังมากที่สุด หลังการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.70 ระบุว่า เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 12.03 ระบุว่า ส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน พัฒนาให้แรงงานให้มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 10.21 ระบุว่า พัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น ร้อยละ 9.41 ระบุว่า ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในประเทศและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 3.48 ระบุว่า ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาของต่างชาติ ร้อยละ 1.90 ระบุว่า การบริการและการได้รับสวัสดิการของรัฐด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และเท่าเทียมกัน ร้อยละ 0.55 ระบุว่า สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็น เช่น อินเทอร์เน็ต น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน รถไฟ การคมนาคม ฯลฯ และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการขับเคลื่อนประเทศไทยที่คน Gen Y อยากเห็นในอนาคต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.13 ระบุว่า แก้ปัญหาการขัดแย้ง สร้างความสามัคคี สร้างจิตสำนึกในการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล รองลงมา ร้อยละ 36.63 ระบุว่า การทำนโยบายสาธารณะที่มาจากประชาชนร่วมกันคิด ร้อยละ 16.85 ระบุว่า ยกระดับคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพ ร้อยละ 15.74 ระบุว่า ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ร้อยละ 10.52 ระบุว่า แก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 5.62 ระบุว่า การแก้ไขปัญหาการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมด้านกีฬาให้กับประชาชน เช่น อุปกรณ์กีฬา สนามกีฬา เป็นต้น ร้อยละ 1.50 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ

ทษช. แนะวงเสวนาแก้กฎหมายให้ทันการเปลี่ยนแปลงเน้นประชาธิปไตย

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ระบุในวงเสวนา จับตาการเลือกตั้ง 2562 ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “Gen Y กับการเลือกตั้ง 2562” ว่า ประเทศไทยถูกทำให้หยุดนิ่งอยู่กับที่มานานแล้ว เกือบ 5 ปี หรือ 10 กว่าปีที่ผ่านมามันไม่ไปไหนเลย มันยังวนเวียนอยู่ในวังวนเดิม จะทำอย่างไรให้ประเทศเราก้าวหน้าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวมองว่า กฎหมายต่างๆเราต้องมีการแก้ไข เพราะว่าในปัจจุบันนโยบายต่างๆ หรือในอนาคตที่จะถึงนี้มันถูกจำกัด ในการที่จะบริหารงานต่างๆ มันถูกจำกัดโดยกฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องมีการแก้กฎหมายสำคัญๆ ที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ เราต้องทำให้ประเทศไทยก้าวทันความเปลี่ยนแปลง ด้วยการทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยจริงๆ 

 น.ส.ขัตติยา ระบุว่า จุดเด่นของพรรคไทยรักษาชาติ จะนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับทุกๆนโยบาย เพราะอย่างที่ได้บอก โลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน ตามสโลแกนของพรรค เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไป แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นภาคแรงงาน ภาคเกษตรกรรม จะต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประเทศ ประเทศไทยคนไทยเรามีสิ่งดีๆหลายอย่าง ที่เราสามารถนำเสนอเอาไปขายได้กับทั่วโลก เราจึงต้องนำเอาเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาประเทศในด้านต่างๆ