ไม่พบผลการค้นหา
ศาลกัมพูชาตั้งข้อหาผู้บริหารชาวจีนและผู้เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างโรงแรมที่สีหนุวิลล์ หนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษกัมพูชา ขณะที่สหภาพแรงงานก่อสร้างฯ ติงมาตรฐานการลงทุนจีน แต่นายกฯ ฮุนเซนโต้กลับ ทุนจากไหนก็ไม่ต่างกัน ต้องทำตาม ก.ม.กัมพูชา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลในจังหวัดสีหนุวิลล์ เมืองชายทะเลของกัมพูชา สั่งฟ้องผู้บริหารชาวจีน 4 ราย รวมถึงพนักงานชาวกัมพูชาและชาวเวียดนามอีก 2 ราย วันนี้ (25 มิ.ย.2562) ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงแรม 7 ชั้นในจังหวัดพระสีหนุ หรือ 'สีหนุวิลล์' ซึ่งถล่มทับคนงานเสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บอีกราว 26 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

เจ้าหน้าที่กัมพูชาตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บร้ายแรงโดยไม่เจตนา หลังจากนั้นจึงสั่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังและสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการกัมพูชาไต่สวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเป็นการแสดงท่าทีหลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุและผู้อำนวยการหน่วยบรรเทาสาธารณภัยประจำจังหวัด 2 รายแถลงลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นิกเกอิเอเชี่ยน รีวิว รายงานอ้างอิงคำแถลงของ 'ฮุน เซน' นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังเดินทางไปยังที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง ก่อนจะมีคำสั่งยุติภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) หลังจากที่หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือคนงานที่ติดใต้ซากปรักหักพังออกมาได้ 2 ราย โดยนายกฯ ฮุน เซน ให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้โรงแรมถล่มทับคนงาน และดำเนินคดีผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน 

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ฮุน เซน ได้กล่าวประณามผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกัมพูชาว่าเปิดรับนักลงทุนจากจีนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนชาวกัมพูชา เพราะคนจำนวนมากเห็นว่ากลุ่มทุนจากจีนไม่รักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย ประกอบกับหน่วยงานรัฐบาลกัมพูชาขึ้นชื่อด้านการทุจริตรับเงินสินบนในภาคธุรกิจ ทำให้มีผู้ไม่เชื่อมั่นว่าในการลงทุนจากจีน แต่ฮุน เซน ระบุ การกล่าวหาว่ากลุ่มทุนจากจีนได้รับเงื่อนไขพิเศษจากรัฐบาลกัมพูชาเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลของตนเองเปิดรับนักลงทุนจากทุกชาติ ต่อให้เป็นนักลงทุนจากจีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือว่าฝรั่งเศส ก็ต้องทำตามมาตรฐานและกฎหมายกัมพูชา 

นิกเกอิเอเชี่ยนรีวิว ระบุด้วยว่า โครงการขนาดใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจกัมพูชาจะถูกเพ่งเล็งมาก เพราะกระบวนการดำเนินงานขั้นตอนต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งทอม โอ' ซัลลิแวนส์ ผู้บริหารสถาบันวิเคราะห์การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง เห็นด้วยกับข้อมูลดังกล่าว และย้ำว่าโครงการลงทุนขนาดเล็กและขนาดกลางของนักลงทุนต่างชาติในกัมพูชาสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบไปได้เพราะไม่สะดุดตาหรือเป็นที่เพ่งเล็งเท่ากับโครงการขนาดใหญ่ แต่กรณีที่เกิดขึ้นใน จ.พระสีหนุ เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้รัฐบาลกัมพูชาหันมาใส่ใจมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ซก คิน ประธานสหภาพแรงงานก่อสร้างงานไม้และอาคารแห่งชาติกัมพูชา ระบุว่า การกำกับดูแลโครงการของนักลงทุนต่างชาติในกัมพูชาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะไม่รู้จะอาศัยอำนาจอะไรไปตรวจสอบ และการจะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาสัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แต่ในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทุจริตอย่างกัมพูชา เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะสนใจเรื่องนี้ก็ต่อเมื่อมีคนตายเท่านั้น 

ส่วนเว็บไซต์เดอะการ์เดียนรายงานอ้างอิงคำแถลงของเสง ลอธ โฆษกระทรวงบริหารจัดการที่ดิน ผังเมือง และการก่อสร้างแห่งกัมพูชา ระบุว่าชาวจีนที่เป็นผู้บริหารของโครงการดังกล่าวกระทำผิดกฎหมายกัมพูชาหลายกระทง ไม่ว่าจะเป็นดำเนินการก่อสร้างโดยไม่มีใบอนุญาต และขัดคำสั่งของเจ้าพนักงาน โดยเขาอ้างว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งหนังสือเตือนเจ้าของโครงการดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่ง 

เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกัมพูชาเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ แต่กลุ่มที่เข้าไปลงทุนมากที่สุดในตอนนี้คือภาครัฐและเอกชนของจีน ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในย่านโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงรีสอร์ตและกาสิโนใน จ.พระสีหนุ ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกัมพูชา และการพึ่งพาอาศัยการลงทุนจากจีน ทำให้กัมพูชาลดการพึ่งพิงเงินช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ ที่เคยมีบทบาทอย่างมากในการร่วมมือกับสหประชาชาติฟื้นฟูกัมพูชาหลังยุคเขมรแดง

ที่มา: The Guardian/ Nikkei Asian Review/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: