ไม่พบผลการค้นหา
ประธานาธิบดี ‘ฮัสซัน โรฮานี’ ของอิหร่านเผยว่า อิหร่านพร้อมเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ หากรัฐบาลสหรัฐฯ ขอโทษต่อการถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 และชดเชยความเสียหายให้กับอิหร่าน

ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกาเลวร้ายลงนั้บตั้งแต่ปี 2561 เมื่อประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ นำสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่บรรลุร่วมกับชาติมหาอำนาจต่างๆ ตั้งแต่ปี 2558 รวมถึงบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอีกครั้งที่ส่งผลทำลายเศรษฐกิจอิหร่าน โดยที่ผ่านมาอิหร่านยืนกรานปฏิเสธที่เจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งพยายามบีบให้รัฐบาลอิหร่านเจรจาข้อตกลงใหม่ ตราบใดที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่ยอมยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านและกลับไปสู่ข้อตกลงเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตข้อความย้ำข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้มีการบรรลุข้อตกลงกันใหม่อีกครั้ง โดยมุ่งจำกัดกิจกรรมเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของอิหร่านให้เข้มงวดขึ้น ไปจนถึงการควบคุมโครงการขีปนาวุธและยุติสงครามตัวแทนในภูมิภาค 

ล่าสุด ประธานาธิบดี ‘ฮัสซัน โรฮานี’ ของอิหร่านได้กล่าวระหว่างแถลงผ่านโทรทัศน์ระบุว่า รัฐบาลอิหร่านไม่มีปัญหาในการพูดคุยกับสหรัฐฯ แต่นั่นจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลวอชิงตันปฏิบัติตามพันธกรณีที่ให้ไว้ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ รวมถึงขอโทษและชดเชยให้กับรัฐบาลอิหร่านต่อการที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 แต่โรฮานีก็บอกว่า อิหร่านรู้ดีว่าข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้มีการเจรจานั้นเป็นเพียงแค่คำพูดและการโกหก

อิหร่านตอบโต้นโยบายกดดันสูงสุดของสหรัฐฯ ด้วยการค่อยๆ ถอยห่างจากคำมั่นด้านนิวเคลียร์ที่ให้ไว้ แต่ก็ระบุว่านี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้หากประเทศมหาอำนาจยุโรปที่ร่วมลงนามในข้อตกลงทำตามสัญญาโดยให้ความคุ้มครองเศรษฐกิจอิหร่านจากมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน โรฮานีก็ยังได้แสดงความไม่พอใจต่อมติที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ (IAEA) รับรองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกร้องให้อิหร่านเปิดทางให้ผู้ตรวจสอบของหน่วยงานสามารถเดินทางเข้าไปยังตรวจสอบสถานที่ 2 แห่งในอิหร่าน ที่ต้องสงสัยว่ามีการดำเนินกิจกรรมทางนิวเคลียร์เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000 รวมถึงขอให้อิหร่านให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยโรฮานีระบุว่า อิหร่านพร้อมให้ความร่วมมือกับไอเออีเอภายใต้กฎหมาย 

อ้างอิง Reuters / CNA