ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศให้การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศ รวมถึงห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากจีนเข้าประเทศ ฟากสายการบินเดลต้าประกาศหยุดเที่ยวบินไป-กลับจีนถึง 30 เม.ย.

อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ ประกาศให้ 'เชื้อไวรัสโคโรนา2019-nCov' เป็น ‘สถานการณ์ฉุกเฉิน’ ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปีที่สหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากเชื้อไวรัสโดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อช่วงทศวรรษ 1960 เมื่อครั้งไข้ทรพิษ หรือ ฝีดาษ ระบาด

การประกาศดังกล่าวจะมีผลต่อการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ของชาวต่างชาติและชาวอเมริกันที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีน โดยในการแถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวอเมริกันที่เดินทางไปมณฑลหูเป่ยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา หากเดินทางกลับมายังสหรัฐฯจะต้องถูกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน

นอกจากนี้ ชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากเมืองอื่นๆ ของจีนจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากสนามบิน 1 ใน 7 แห่งของสหรัฐฯ เพื่อตรวจหาความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนาฯ ซึ่งหากไม่มีอาการบ่งชี้จากการรับเชื้อไวรัส สามารถกลับบ้านได้ และจะได้รับการติดตามอาการเป็นระยะจากหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น

รมต.กระทรวงสุขภาพฯ ยังกล่าวว่า สหรัฐฯ จะปฏิเสธการเข้าประเทศของชาวต่างชาติกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะนำเชื้อไวรัสฯ เข้ามาแพร่กระจายในสหรัฐฯ และคำสั่งดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 ก.พ. เวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ

วานนี้ (31 ม.ค.) สายการบินเดลต้าของสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินจากสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีนทั้งหมด โดยจะเริ่มหยุดบินตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. - 30 เม.ษ.2563 จากความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังไม่สามารถควบคุมได้

ปัจจุบันในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว 7 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันที่เดินทางกลับมาจากจีน และมี 1 รายที่ติดเชื้อไวรัสจากบุคคลในครอบครัว ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกมีจำนวน 11,943 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 259 คน

ที่มา CNBC / nbcnews

ข่าวที่เกี่ยวข้อง