ไม่พบผลการค้นหา
'ยุทธพงศ์' ตั้งข้อสังเกตวุฒิด็อกเตอร์ 'สันติ พร้อมพัฒน์' เตือน 'ประยุทธ์' ดูกฎหมายก่อนลงนามต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เอื้อเอกชน ติงสัญญา 'จีทูจี เรือดำน้ำเชิงพานิชย์' ศัพท์ใหม่ ขัด รธน.

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณี 'จีทูจี เรือดำน้ำเก๊' ,การต่อสัมปทานส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว และเรื่องวุฒิการศึกษาของสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การลงนาม จีทูจี ซื้อเรือดำน้ำจีน ไม่มีหนังสือมอบอำนาจและรัฐสภาไม่ได้ให้ความเห็นชอบ ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญชัดเจน ทั้งตามรัฐธรรมนูญ 2550 ในมาตรา 190 และรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 178 ซึ่งกำหนดเหมือนกันว่าให้ทำหนังสือความตกลงระหว่างประเทศทุกประเภท และที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบเช่นเดียวกัน

ส่วนที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้เเจงในสภาผู้แทนราษฎรว่า เป็นการทำ 'จีทูจี เชิงพานิชย์' นั้น ฟังไม่ขึ้น และถือเป็นศัพท์ใหม่และตนเพิ่งเคยได้ยิน ซึ่งหากเป็นจริงตามที่อ้างแสดงว่า กองทัพเรือค้าขายกับต่างชาติได้เอง แต่หน่วยงานอื่นทำไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยตีความไว้ และศาลฎีกานักการเมืองเคยตัดสินมาแล้วด้วย ทั้งกรณีขัดเเย้งเขาพระวิหาร กรณีจำนำข้าว และอื่นๆ

แฉปม 'รถไฟฟ้าสายสีเขียว' ผิด พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ

สำหรับการต่อสัมปทานส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยุทธพงษ์ยืนยันว่า ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ทำให้ภาครัฐเสียประโยชน์ โดยเฉพาะการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เลี่ยงไม่เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ทำให้ไม่มีการประเมินมูลค่าหรือรายได้เพื่อแบ่งผลประโยชน์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ให้รัฐมนตรีคลัง 2 คน ไม่นำเข้าคณะรัฐมนตรี และออกจากตำแหน่งไป และกรรมาธิการของสภาฯ ที่เกี่ยวข้อง ก็มีความเห็นไม่ให้ผลักดันแล้ว แต่สันติ ซึ่งอยู่ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ดึงดันตลอดมาและพยายามจะนำเข้า ครม.อีกนั้น 

ยุทธพงศ์ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำการยับยั้ง หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยับยั้ง ตนก็ขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่ให้มากกว่าที่เป็นอยู่

ยุทธพงศ์ ยังระบุถึงความน่าเชื่อถือของสันติ พร้อมพัฒน์ ที่นอกจากมีปัญหาทุจริตการสอบวุฒิปริญาตรี มหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว ยังมีพิรุธจากที่ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน บอกว่าเพิ่งจบปริญญาเอก ด้านรถยนต์ไฟฟ้า ที่มหาวิทยาลัยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบหลักสูตรนี้เปิดสอน แต่พบว่าสันติ เรียนปรัชญาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรนานาชาติ ด้านการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม อีกทั้ง สันติ ยังจำชื่อสถาบันที่เรียนและหลักสูตรที่จบไม่ได้ ซึ่งขัดแย้งกับคนทั่วไป จึงน่าสงสัยและไร้ความน่าเชื่อถือ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: