ไม่พบผลการค้นหา
"ส.ส.เพื่อไทย" เชื่อสินค้าเกษตรช่วยไทยฟื้นหลังวิกฤติ แนะรัฐเร่ง "พาณิชย์" หาตลาดส่งออกปั้นรายได้ช่วยเกษตรกร

นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่กระทบหนักมาก เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรไม่สามารถขายได้ ทั้งมะม่วง หรือลิ้นจี่ ราคาตกต่ำมาก และไม่มีที่ระบายสินค้า คาดว่าในปีนี้ (63) ตลาดมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองได้รับผลกระทบทั่วหน้า เนื่องจากประเทศผู้ซื้อหลักคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย ตะวันออกกลาง ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้ลดปริมาณการซื้อลง

โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 เคยส่งออกปีละ 8,000-10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดยุโรปมีเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายหายไปมากกว่าร้อยละ 50 ขณะที่การทำตลาดเพื่อหาช่องทางอื่นจำหน่ายค่อนข้างลำบาก ส่งผลทำให้ราคาตกต่ำลง จากปกติทุกปีส่งออกได้ 70-80 บาท/กิโลกรัม แต่ตอนนี้ต้องขายตลาดในประเทศเหลือ 40-50 บาท/กิโลกรัม ราคาหายไปร้อยละ 50

นายประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ต้องเร่งในการทำการตลาดเพื่อกระจายสินค้าออกไปสู่ตลาดต่างประเทศให้มากที่สุด แต่ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไม่ให้ความสำคัญ กับการตลาดสินค้ามากนัก ส่งผลให้ไทยสูญเสียรายได้จากการขายสินค้าเกษตรเป็นมูลค่ามหาศาล ทั้งที่ในสถานการณ์เช่นนี้ทุกเรื่อง ที่เป็นรายได้รัฐบาลควรที่จะให้ความสำคัญหนักมาก

"รัฐบาลต้องพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เพราะประเทศไทยมีผลิตผลทางการเกษตรหลากหลายและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรายได้จากการเกษตร มูลค่ากว่า 26.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งไทยยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเป็นอันดับที่ 18 ของโลก โดยมีคู่ค้าสำคัญได้แก่ อาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ข้าว น้ำตาล ผลไม้ อาหารปรุงแต่ง ของปรุงแต่งจากผักผลไม้ เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ เป็นต้น หากรัฐบาลตั้งใจจริงในการช่วยเหลือเกษตรกร เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถฟื้นได้ด้วยสินค้าเกษตรอย่างแน่นอน" นายประสิทธิ์ กล่าว