ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ ขณะที่สื่อมวลชนต่างดักสัมภาษณ์ เกี่ยวกับการย้ายสังกัดของ น.ส.ศรีนวล
นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจาก น.ส.ศรีนวล ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความจำนงจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคภูมิใจไทยยินดีต้อนรับ รอเพียงกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ทุกอย่างให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
นายอนุทิน ระบุด้วยว่า เป็นที่รับรู้กันว่า น.ส.ศรีนวล เป็น ส.ส. ที่ขยัน ช่วงสังกัดพรรคอนาคตใหม่ก็พยายามประสานงานนำความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมาหารือ จึงเห็นว่าเป็นผู้มีความทุ่มเทให้กับประชาชนในพื้นที่ และนางศรีนวล คงมองว่าพรรคภูมิใจไทยมีผลงาน โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข เป็นพรรคกลางๆ ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใครมากมาย จึงได้นั่งพูดคุยกันว่าน่าจะทำงานร่วมกันได้
"ไม่ได้ "ดูด" ตัว น.ส.ศรีนวลมา แต่ น.ส.ศรีนวล มาขออยู่กับพรรคภูมิใจไทยเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่ "งูเห่า" ซึ่งในฐานะ ส.ส.ต้องมีน้ำใจซึ่งกันและกัน จะไปขับไสไล่ส่งได้ยังไง ขณะที่ ส.ส.อีก 3 คนรวมถึง น.ส.ศรีนวลก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยืนยันด้วยว่า อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยคือทำทุกอย่างเพื่อประชาชนทำงานอย่างเต็มที่ ให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง จึงมั่นใจว่านางศรีนวลและ ส.ส.ของพรรคทุกคนตั้งใจที่จะทำสิ่งนี้ คือการยึดประชาชนเป็นใหญ่ เพราะต้นทุนของพรรคภูมิใจไทย คือความศรัทธาของประชาชน ดังนั้น จะทำให้ศรัทธาของประชาชนหดหายไปไม่ได้ ถ้าทำงานเต็มที่ ศรัทธานี้ก็จะยังคงอยู่
นอกจากนี้ น.ส.ศรีนวล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่ ส.ส.ภาคเหนือพรรคอนาคตใหม่ ท้าให้ลาออกจากการเป็น ส.ส.และลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งภายใต้สังกัดใหม่ หากมั่นใจว่าคะแนนที่ได้มาอันดับหนึ่งเมื่อครั้งอยู่พรรคอนาคตใหม่มาจากตัวเอง
น.ส.ศรีนวล ปฏิเสธที่จะลาออกจาก ส.ส.แล้วลงเลือกตั้งใหม่ โดยให้เหตุผลว่า "เปลืองงบหลวง เมื่อประชาชนเลือกขึ้นมาแล้ว จะอาสาสานต่อและทำงานเพื่อประชาชนต่อไป เพราะการลาออกเป็นการที่เสียงบประมาณโดยใช่เหตุ" และเห็นว่าการเอา "น้ำพริกหนุ่มกับไส้อั่ว" ของฝากจากเชียงใหม่มาฝากนายอนุทิน ก่อนหน้านี้ ไม่น่าจะมีความผิดอะไร
เมื่อถามถึงกระแสต่อต้านในพื้นที่ น.ส.ศรีนวล ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือหวั่นไหว และกล่าวว่า "ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ความจริงก็คือความจริงวันหนึ่งถ้าชาวบ้านรู้ความจริงก็คงจะรักเรายิ่งกว่าเดิม"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง