ไม่พบผลการค้นหา
กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เตรียมความพร้อมเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. เผยอยู่ระหว่างสรรหาบุคคลที่เหมาะสม ยืนยัน ไม่เลือกคนใกล้ชิดแกนนำพรรคฯ พร้อมชูนโยบายพรรค สร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ ไม่ได้ปรึกษา 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10 ก.ค.) ที่ทำการพรรคก้าวไกล บางแค กทม. ได้มีการแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. พร้อมส่งผู้สมัครทั้ง 50 เขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้ นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค และนางสาววรรณวลี ตะล่อมศิล ส.ส.กทม. 

อิศราวุธ ณ น่าน ก้าวไกล

นายพิธา เผยว่า มั่นใจในการสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นในกรุงเทพมานคร ทั้ง 50 เขต รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร แต่ในวันนี้กรุงเทพมหานครมีการปกครองท้องถิ่นแบบล้าหลัง และให้อำนาจแก่ประชาชนน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ และพรรคก้าวไกลพยายามพิสูจน์มาโดยตลอดให้เป็นการเมืองที่สะอาด จริงใจ และในการเลือกตั้งท้องถิ่นของกรุงเทพมานครเราจะเดินหน้าเต็มกำลัง ให้ชาวกรุงเทพฯ มีสิทธิ์มีเสียงในการแสดงออก และจะทำให้เกิดการปฏิรูปในกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง ให้เป็นองค์กรส่วนท้องถิ่นที่ทันสมัยมีอำนาจในการบริหารจัดการเพื่ออนาคต 

ทั้งนี้ ในวันที่ 11-25 ก.ค. จะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ส.ก. โดยจะให้สมัครผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของพรรคฯ และผู้ที่จะมาสมัคร ส.ก. ต้องมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ อย่างที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ต้องการพิสูจน์มาโดยตลอด อีกทั้งพรรคต้องการมีตัวเลือกที่ดีให้กับประชาชน เป็นการสร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ที่ทุกคนจะเข้าใจได้ พรรคก้าวไกล คือสถาบันการเมืองที่มีระเบียบ ไม่ใช่พรรคของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน 

อิศราวุธ ณ น่าน ก้าวไกล

ด้าน นายชัยธวัช เลขาธิการพรรคฯ ได้เผยถึงการจะเปิดรับสมัครบุคคลที่จะมาชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ว่า ยังอยู่ในกระบวนการสรรหาและเปิดรับคนที่จะมาดีเบตในตำแหน่งผู้ว่าฯ ซึ่งคนนอกสามารถสมัครได้ เพราะพรรคขับเคลื่อนด้วยสมาชิกทุกคน และต้องการจะแก้ไขกรุงเทพฯ ที่โครงสร้างและนำอำนาจมาสู่คนกรุงเทพฯ

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลได้คุยกับ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน แล้วหรือไม่ นายชัยธวัช เผยว่า ไม่ได้คุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านใด ๆ เพราะเราต้องการนำอัตลักษณ์ของตนเองให้สู่ประชาชน ตั้งใจที่จะนำความทุกข์ร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง และออกแบบนโยบาย กลยุทธ์ออกมา

วิโรจน์

ส่วนนายวิโรจน์ โฆษกพรรคฯ ยืนยันว่า คนกรุงเทพฯ ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และต้องการเห็นกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะต้องทำร่วมกันกับนโยบายท้องถิ่นและนโยบายของกรุงเทพฯเพื่อให้กรุงเทพฯ มีอำนาจในการบริหารตนเองมากขึ้น ทุกนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะนำเสนอ คือ การพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยการคืนอำนาจให้กับคนกรุงเทพฯ ให้คนกรุงเทพฯ เป็นเจ้าของกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง ส่วนตัวเชื่อว่า คนกรุงเทพฯ ต้องการพรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีความกล้าหาญ มุ่งมั่น ตั้งใจ และคืนอำนาจสู่คนกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง