ไม่พบผลการค้นหา
ศาลมีคำสั่งประหารชีวิต 'ผอ.กอล์ฟ' กรณีชิงทองกลางห้างสรรพสินค้า จ.ลพบุรี เมื่อ 9 ม.ค. 2563 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ระบุพฤติกรรมร้ายแรงต่อสังคม ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ

ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีฆ่าชิงทองห้างโรบินสัน ลพบุรี หมายเลขดำอ.409/2563 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน

คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 เวลากลางคืน จำเลยได้นำอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรปภ. เสียชีวิตรวมทั้งยิงประชาชนอื่น จนเป็นเหตุให้ ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และ ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า ถึงแก่ความตาย และจำเลยยังยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ผู้เสียหายไปก่อนขี่ จยย.หลบหนีไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

โดยวันนี้ (27 ส.ค.) ศาลได้เบิกตัวประสิทธิชัย จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีอัยการโจทก์ ทนายจำเลย และญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาศาลร่วมฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวนรวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจนเชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดีจริง ข้ออ้างที่จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลว่า เป็นความคิดชั่ววูบ เพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมากนั้น รับฟังไม่ขึ้นเนื่องจากจำเลยมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด

สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิตจำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่ ธีระฉัตร ผู้ตาย รปภ. ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดนภาณุวิชญ์ จนเสียชีวิต ศาลถือว่า จำเลยมีเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย

ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบา เพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุมประกอบกับ มีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัว และไม่ให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐาน หรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์สามารถนำสืบเองได้ คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่ให้ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ทั้งนี้คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามสังคม คำให้การของจำเลยฟังไม่ขึ้น

จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง หลายกรรมต่างกัน พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม รวมโทษทุกกระทง คงประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว ปรับ 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายทุกคน รวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างฟังคำพิพากษา ญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกเศร้าสะเทือนใจและร้องไห้ออกมา ขณะที่ญาติของประสิทธิชัย มีบิดา มารดา และภรรยา นั่งร้องไห้เมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตอดีต ผอ.กอล์ฟ ขณะที่ตัวประสิทธิชัย มีสีหน้าหม่นหมอง และหันไปมองกลุ่มญาติที่นั่งร้องไห้บ่อยครั้ง