ไม่พบผลการค้นหา
อดีตนักวิทยาศาสตร์ (สบ.1) มั่นใจหลักฐานเพียงพอเอาผิดทายาทกระทิงแดง ผิดหวังกระบวนการยุติธรรมไทย

วันที่ 24 ก.ค. ที่รัฐสภา พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตนักวิทยาศาสตร์ (สบ.1) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ทุกข้อกล่าวหาในคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ว่า ตนเป็นผู้พิสูจน์หลักฐานคดีนี้ด้วยตัวเอง ทั้งจดบันทึก ถ่ายรูป เก็บร่องรอยหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดีนี้ ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาขับรถชนท้ายจริง 

แต่นายวรยุทธกลับส่งคนรับใช้มามอบตัวแทน จนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นต้องนำกำลังไปล้อมบ้าน 200 นายจนต้องมอบตัว ยืนยันหลักฐานที่ได้คือรอยช้ำตามแนวคาดเข็มขัดนิรภัย ตนเองเป็นผู้ดูกล้องวงจรปิดและคำนวณความเร็ว ซึ่งพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนด มั่นใจว่าหลักฐานในขณะนั้นสามารถเอาผิดได้แน่นอน 

กองพิสูจน์หลักฐานขณะนั้นออกรายงานได้ภายใน 1 เดือน แต่พอเข้าสู่ชั้นพนักงานสอบสวนกลับใช้เวลาหลายปี จึงรู้สึกไม่พอใจมากเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ และควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อขจัดปัญหาให้หมดไป

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวว่าตำรวจและอัยการต้องแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเหตุผลที่ไม่สั่งฟ้องคดี ตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกสอบ แต่ไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง ทั้งที่ไม่ได้นำรายงานเรื่องความเร็วจากกองพิสูจน์หลักฐานมาพิจารณา ละเว้นไม่ออกหมายจับ ไม่ติดตามดูแลการสอบสวน จนทำให้กระบวนการหยุดอยู่ที่อัยการ ยังไม่เข้าสู่กระบวนการศาลเสียด้วยซ้ำ 

ขณะที่อัยการปล่อยให้มีการเลื่อนนัดพบถึง 7 ครั้ง ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ในฐานะ ส.ส.ตั้งคำถามว่าคุกมีไว้แค่ขังคนจนหรือไม่ 

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องมีการปฏิรูปตำรวจทั้งกระบวนการสอบสวนคดี พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำอะไรจึงปล่อยให้การปฏิรูปตำรวจคาราคาซัง