ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส. ประชาธิปัตย์ โต้ 'ประวิตร-วิษณุ' ผบ.เหล่าทัพ มีสถานะระดับอธิบดี ไม่ควรรับอภิสิทธิ์เหนืออธิบดีกรมอื่น นั่ง ส.ว. ขัดกับหลักการประชาธิปไตย ยืนยันงบ 2-3 พันล้านทำประชามติคุ้มค่า

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่า ในขณะนี้หลายฝ่ายเห็นด้วยกับหลักการที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แสดงความเห็นให้ตัดโควต้าสมาชิกวุฒิสภาที่มาจาก ผบ. เหล่าทัพ 6 ตำแหน่ง เพราะขัดต่อหลักการในระบอบประชาธิปไตย ที่ให้ข้าราชการประจำควบตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้ด้วย การที่ ผบ. เหล่าทัพจะเข้ามานั่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีความเหมาะกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ส่วนการที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อ้างเหตุผลของการที่ ผบ. เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภา เพื่อต้องการประสานงานด้านข้อมูลข่าวสาร กับผู้ใต้บังคับบัญชาบัญชานั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะ ผบ. เหล่าทัพ มีสถานะเทียบเท่าระดับอธิบดีในกระทรวงต่างๆ ถ้าหากต้องการ ประสานงานด้านข้อมูลกับฝ่ายข้าราชการประจำจริง อธิบดีทุกกรม ก็ควรมีสิทธิ์มาเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งได้ด้วย ซึ่งขัดกับหลักการในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การที่ ผบ. เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง และรับเงินเดือน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้ง 2 ตำแหน่งด้วยนั้น ถือว่าเป็นการเอาเปรียบ หรือมีอภิสิทธิ์เหนือบุคคลอื่น ที่เข้าตำแหน่งทางการเมือง 2 ตำแหน่ง แต่รับเงินเดือนค่าตอบแทนได้เพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น ผบ. เหล่าทัพ ก็ไม่ควรมีสิทธิ์พิเศษเหนือบุคคลอื่นเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ว่า ต้องใช้งบประมาณ 2-3 พันล้านบาทนั้น เป็นงบประมาณในการทำประชามติรัฐธรรมนูญทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะประเด็น ผบ. เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งเท่านั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ยังมีหลายประเด็นที่ต้องศึกษาแก้ไข เพราะฉะนั้นการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้งบประมาณ 2-3 พันล้านในแต่ละครั้งเป็นเรื่องปกติ และคุ้มค่ากับการลงทุนในการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงของประเทศไทย