ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด พิจารณาหากมีรายการใดขอเข้าไปถ่ายทำในวัด ต้องดูเนื้อหาไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา และนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางไปถวายเทียนพรรษาที่วัดหนองหว้า ต.โคกกรวด และวัดหลักร้อย ต.ในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา

จากนั้นนายเทวัญฯ และคณะได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์และอัฐิท่านท้าวสุรนารีหรือย่าโมและอนุสาวรีย์นางสาวบุญเหลือ ณ วัดศาลาลอย อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยมีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครราชสีมาและนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะเช่นกันเป็นจำนวนมาก

นายเทวัญ กล่าวว่า จากกรณีช่องส่องผี ซึ่งมีพิธีกร 3 คน คือนายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือ 'บ๊วย' น.ส.สุรประภา หิรัญปุณญะโชติ หรือ 'เรนนี่' และนายศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ ดำเนินรายการ มากล่าวลบหลู่ย่าโม จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวโคราชเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางทีมงานรายการดังกล่าว ได้แจ้งความประสงค์จะมาทำพิธีขอขมา ตนเองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนเราถ้าสำนึกผิดไปแล้ว เชื่อว่าชาวโคราชก็พร้อมที่จะให้อภัย

ส่วนเรื่องของคดีความที่มีสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นายเทวัญ กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพราะการมาบิดเบือนประวัติศาสตร์นั้นมีความผิดอยู่แล้ว และทราบข่าวว่ารายการนี้ยังไปบิดเบือนประวัติศาสตร์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสุนทรภู่อีกด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กสทช. หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องเข้าไปดูเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาอีก เพราะว่าหากปล่อยปละละเลยให้มีรายการลักษณะเช่นนี้ ไปบิดเบือนประวัติศาสตร์ตามอำเภอใจให้คนดูหลงเชื่อ จะส่งผลไม่ดีต่อประเทศชาติแน่นอน

นายเทวัญ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาที่กำกับดูแลอยู่ ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดแล้วว่า หากมีรายการลักษณะเช่นนี้ ไปขอถ่ายทำในวัดต่างๆ ขอให้ชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน และขอให้พิจารณาให้ดีก่อนอนุญาต หากมาถ่ายทำเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่หากมาถ่ายทำแล้วไปบิดเบือนประวัติศาสตร์ และมีการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ก็ให้พิจารณาว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายทำเด็ดขาด นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังกรมศิลปากร เพื่อให้ดูในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ไม่ให้มีใครมาบิดเบือนได้ในภายหลัง และฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยว่า เมื่อดูรายการลักษณะนี้แล้ว ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการดูด้วย อย่าเชื่อเสียทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าหลายคนก็คงจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

ด้านนายวัชรพล กล่าวว่า ในฐานะเป็นชาวโคราช และได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ก็รู้สึกว่าการกระทำของรายการนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ที่จะมาบิดเบือนประวัติศาสตร์ของชาวโคราชที่มีบันทึกมาอย่างยาวนาน ซึ่งทำให้พี่น้องชาวโคราชรู้สึกโกรธแค้นกับรายการนี้มาก และได้ข่าวว่าทางรายการจะพาทีมงานมาขอขมาย่าโม ตนเองก็ขอให้รีบมาเร็วๆ เพราะอย่างน้อยคนโคราชส่วนหนึ่งก็คงจะให้อภัยได้บ้าง แต่ถ้าไม่มาโดยส่วนตัวตนเองก็ตั้งใจไว้แล้วว่า จะใช้เวลาของรัฐสภา ยื่นกระทู้ถามไปยัง กสทช.ว่ารายการลักษณะเช่นนี้ หน่วยงานที่ตรวจสอบปล่อยให้ออกมาเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะได้อย่างไร เพราะไม่ใช่เฉพาะที่โคราชเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายแห่งที่มีปัญหาเช่นนี้

นายวัชรพล กล่าวว่า แม้ว่าจะถอดรายการออกจากช่องทีวีดิจิทัลแล้วก็ตาม แต่ยังเผยแพร่อยู่ในช่องยูทูบอีก กสทช.ก็ต้องตามไปจี้ถึงตรงนั้นด้วย เพราะหากปล่อยให้รายการลักษณะเช่นนี้ยังลอยนวล และเกิดรายการอย่างนี้ขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร ซึ่ง กสทช.ก็ต้องมาชี้แจงว่ารายการอย่างนี้ผิดหรือถูก และถ้าผิดก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นวันดีคืนดีแล้วมีคนอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษ มาพูดบิดเบือนประวัติศาสตร์มั่วๆ แล้วชาวบ้านหลงเชื่อ

ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นช่องทางที่จะถูกหลอกให้เสียเงินเสียทองกันเป็นจำนวนมาก ตนเองนั้นอยากให้ถอดรายการลักษณะเช่นนี้ออกจากผังรายการทั้งหมด รวมทั้งจากสื่อออนไลน์ด้วย เพราะคุณจะมาพูดได้อย่างไรว่าตายไปแล้ว 49 วัน แขนหัก ขาหัก แล้วฟื้นขึ้นมากลายเป็นผู้วิเศษระลึกชาติได้ พูดอย่างนี้มันตลกสิ้นดีที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้มาเสนอหน้าออกรายการทีวี ดังนั้นต้องมีมาตรการจัดการกับรายการอย่างนี้ขั้นเด็ดขาดไปเลย

DSC_0789.JPG