16 มิ.ย.เว็บไซต์ worldometer รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 8,112,611 ราย โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2,182,950 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อในสหรัฐฯ ก็มีมากกว่า 118,283 ราย

ขณะที่ประเทศบราซิล จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นถึง 891,556 ราย และเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้วกว่า 44,118 ราย

งานวิจัยจาก London School of Hygiene and Tropical Medicine วิเคราะห์ว่า ประชากรโลกประมาณ 1,700 ล้านคน หรือมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลกนั้นมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดอย่างรุนแรง 

การวิเคราะห์ดังกล่าวได้ยกข้อมูลของประชากรทั่วโลกที่ตกอยู่ในภาวะที่มีปัญหาสุขภาพมาวิเคราะห์ ซึ่งพบว่า 1 ใน 5 ของประชากรทั่วโลกมีปัญหาทางด้านสุขภาพทั้งโรคเบาหวาน โรคปอดและเฮชไอวี ซึ่งอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลให้หากติดเชื้อโควิดก็จะอยู่ในภาวะที่เป็นอันตราย

ด้านประเทศจีน รายงานว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 40 ราย โดย 32 รายเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ซึ่งมี 27 รายเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่อยู่ในปักกิ่ง ซึ่งในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้วทั้งสิ้น 106 ราย โดยทุกรายมีประวัติการติดต่อหรือเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในตลาดซินฟาตี้

ด้านประเทศนิวซีแลนด์ รัฐบาลแถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในรอบ 24 วัน หลังจากที่นิวซีแลนด์ประกาศตัวเป็นประเทศปลอดโควิด

ทางกระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้ต่างเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษทั้งคู่ และการมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัจจุบันนิวซีแลนด์อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ถือสัญชาตินิวซีแลนด์ และแรงงานทักษะพิเศษที่จำเป็นเท่านั้นที่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องถูกกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 

ที่มา CGTN / NZherald / the guardian