ไม่พบผลการค้นหา
‘อันวาร์ - พนิต’ ย้ำเงื่อนไข 3 ข้อ ร่วมรัฐบาล หากมีการทุจริตควรทบทวนจุดยืน และเร่งจัดประชุมใหญ่ หารือปัญหาที่เกิดขึ้น หาทางเรียกศรัทธาจากประชาชนคืน-ป้องกันพรรคเลือดไหล

นายอันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอให้เปิดประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ สืบเนื่องจากกระแสเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากรัฐบาล จากกรณีบุคคลใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กักตุนหน้ากากอนามัยว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกแล้วเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.2563) ว่ากำลังหาวันที่เหมาะสม และคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

ตนเองเคยยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคขอให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญไปตั้งแต่เหตุการณ์ที่มีสมาชิกหลายคนลาออกจากพรรค แต่เลื่อนออกไป เนื่องจากกำลังจะมีการประชุมใหญ่สามัญในวันที่ 7 มี.ค.อยู่แล้ว แต่ก็เลื่อนออกไปอีก จึงได้ทำหนังสือขอให้มีการประชุมใหญ่ เพราะมีหลายประเด็นที่เป็นเรื่องภายในของพรรค ซึ่งควรให้สมาชิกมาพูดคุยกัน เพื่อเดินหน้าเรียกศรัทธาจากประชาชน

ส่วนการเสนอให้ทบทวนแนวทางร่วมรัฐบาล เนื่องจากขัดต่อเงื่อนไข 3 ข้อ ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยตกลงไว้ นายอันวาร์ กล่าวว่า จริงๆ ก็อยากให้รัฐบาลอยู่ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนมากที่สุด แต่หากมีประเด็นอุปสรรคที่ควรจะต้องพิจารณา ก็จะเสนอให้ทางพรรคพิจารณาเพื่อให้การร่วมรัฐบาลและการแก้ปัญหาประชาชนเป็นไปด้วยดี ส่วนจะเข้าข่ายขัดเงื่อนไขรัฐบาลหรือไม่นั้น หลายเรื่องต้องดูเหตุผลที่สนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการลงมติภายในพรรค 24 ต่อ 17 เสียง ให้ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นมติที่จำนวนใกล้เคียงกันมาก เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันภายในพรรคว่าอนาคตข้างหน้าอาจจะมีมติอะไรที่ต้องออกมาอีก ดังนั้นการทำงานจะไม่ให้เกิดปัญหา ภายในพรรคก็ต้องพูดคุยกัน

ส่วนจะต้องโหวตกันใหม่ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอันวาร์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการโหวตใหม่ แต่ต้องพิจารณาทุกเรื่อง เพราะหลังจากเลือกตั้งก็ต้องรับรู้ว่าประชาชนกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง เหมือนกับลงโทษให้ได้รู้ว่าต้องรับฟังประชาชนบ้าง

สำหรับเงื่อนไขว่า หากมีการปรับร้อยเอกธรรมนัส ออกจากคณะรัฐมนตรี จะช่วยบรรเทาปัญหาได้หรือไม่นั้น นายอันวาร์กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่ภายในพรรคก็ต้องอย่าลืมว่า เงื่อนไขทั้ง 3 เงื่อนไข ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอยู่ แน่นอนที่สุดว่าหากมีการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เข้าข่ายเป็นเงื่อนไขที่พรรคเคยพูดคุยไว้ และเชื่อว่าคนในพรรคก็จะรับไม่ได้

อันวาร์ สาและ

ทั้งนี้ นายอันวาร์ ยืนยันว่าสิ่งที่พวกผมออกมาเคลื่อนไหว ไม่ได้เกิดจากความเชื่อมั่นในตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่านายจุรินทร์ อยู่เพราะทุกวันนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ คนเดียว และที่เสนอประชุมเพราะมีประเด็นที่เป็นปัญหาในอนาคต ผมคิดว่าเป็นความกังวล และคิดว่าถ้าป้องกันอะไรได้ก็ทำ ถ้าเป็นหลักของเหตุของผล ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอในข้อคิดเห็นต่างๆ เพราะคิดว่าจำเป็นที่เราจะต้องหารือภายในเพื่อป้องกันปัญหาเลือดไหล เพราะทราบว่ายังมีกรรมการบริหารพรรคลาออกอีกหลายคน เมื่อถามว่า หากนายจุรินทร์ ไม่สามารถแก้ปัญหาความเห็นต่างที่เกิดขึ้นในพรรคจะนำไปสู่ข้อเรียกร้องให้ทบทวนตำแหน่งหรือไม่ นายอันวาร์ กล่าวว่า มาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ มีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว หากมีความเห็นต่างจะต้องนำมาคุยกันในที่ประชุม แต่จะไปถึงจุดไหนอย่างไร มติที่ประชุมเป็นสิ่งที่กำหนดไว้ 


ถึงเวลา ปชป. ต้องทบทวน หยุดพายเรือให้โจรนั่ง

ส่วนข้อความที่ปรากฏในไลน์กรุ๊ป อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ว่าหยุดพายเรือให้โจรนั่ง นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานเข้าร่วมรัฐบาลมาระยะเวลา 8 ถึง 9 เดือนแล้ว ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการตาม 3 เงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอไว้ แต่เมื่อผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าอาจจะถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ ควรมีการพูดคุยกันภายในเพื่อประเมินผลงาน และทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร หากได้รับการยืนยันว่ารัฐบาลจะแก้ไขก็เดินหน้าทำงานต่อ ไม่ได้เกี่ยวว่าจะออกจากรัฐบาลวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนที่ตนเองส่งสัญญาณไป ก็เป็นเหมือนการเตือนพรรคประชาธิปัตย์และนายกรัฐมนตรี เมื่อถ้าถึงจุดหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องคุยกันถึงจุดยืนของพรรค

ส่วนกรณีบุคคลใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย นายพนิต กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่มากกว่านั้นคือเป็นการเอาเปรียบประชาชน เรื่องนี้ก็ต้องมีการสอบสวนต่อไป โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ต้องเข้าไปดูเรื่องนี้

หากมีความชัดเจนและตอบสังคมได้ว่าไม่มีปัญหา ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังสามารถทำงานร่วมรัฐบาลต่อได้ แต่หากมีปัญหา มีสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็ควรมีการพูดคุยกันและทบทวน ว่าจะบริหารประเทศต่อไปแบบนี้หรือไม่นายพนิต ยังย้ำถึงมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตที่สำคัญที่สุด หากมีปัญหานี้เกิดขึ้น พรรคก็ต้องมีการกำหนดท่าทีที่ชัดเจนโดยการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง