ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมป่าไม้ เผยพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่ากว่า 50,000 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมย้ำไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือเริ่มดีขึ้น หลังระดมเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่าสถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือตอนบนตัวเลขจุดความร้อน (Hot spot) ลดลงต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนภาพรวม 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนน้อยกว่า 28 จุด จากการปฏิบัติงานสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐ อาสาสมัครดับไฟป่า และการสนับสนุนอุปกรณ์ดับไฟป่าจากหลายพื้นที่ส่งมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ใช้ปฏิบัติงานจนทำให้แนวโน้นไฟป่าดีขึ้น และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเบื้องต้นใช้มาตรการจัดชุดดับไฟป่า 3,042 นาย และชุดเฝ้าระวังลาดตระเวน 4,254 นายรวมเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานทั้งหมด 7,296 นายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อปฏิบัติการดับไฟป่าทางอากาศโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ 14 ลำ ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุไฟป่าได้ควบคู่กับทำงานร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังไฟป่าในหมู่บ้านเสี่ยง 1,090 หมู่บ้าน เพื่อไม่ให้เกิดการปะทุของไฟป่าขึ้นอีกสิ่งสำคัญยังไม่พบจุดความร้อน (Hot spot) ในพื้นที่ 11 จังหวัด คือ พะเยา, แพร่, ลำพูน, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, และเพชรบูรณ์ 

ทั้งนี้ ภาพรวมแนวโน้มไฟป่าลดลงต่อเนื่องจากการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงของเจ้าหน้าที่รวมถึงเร่งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนพร้อมบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด      

ซึ่งจากการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่าส่งผลให้จุดความร้อน (Hot spot) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือลดลงเหลือเพียง 49 จุด โดยพบจุดความร้อยมากสุดอยู่ที่จังหวัดน่านเพียง 27 จุด ส่วนใหญ่พื้นที่เกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ทำกินและเป็นช่วงสิ้นสุดห้วงเวลาของการห้ามเผาที่กำหนดไว้ระหว่างวันที่ 15ก.พ. ถึง 15 เม.ย. และจุดความร้อนน้อยสุดอยู่ที่จังหวัดเชียงรายพบเพียง 1 จุด ส่วนพื้นที่จังหวัดตาก, พะเยา, แพร่, และลำพูนไม่พบจุดความร้อนเกิดขึ้นแล้วแสดงให้เห็นว่าการเข้าปฏิบัติการดับไฟมีประสิทธิภาพดีมากกว่าร้อยละ 70 ประกอบกับช่วงนี้มีพายุฤดูร้อนทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ไฟป่าติดต่อกันช่วยลดความรุนแรงและความร้อนสะสมของไฟป่าได้พอสมควร

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวย้ำว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ป่าที่เกิดความเสียหายจากไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนพบมีพื้นที่ป่าที่เสียหาย 55,266 ไร่ หรือร้อยละ 0.18 ของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยพื้นที่เสียหายส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 17,771 ไร่ ส่วนการดำเนินคดีมีเพิ่ม 50 คดี รวมคดีสะสมอยู่ที่ 963 คดีตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. ถึง 17 เม.ย. พบมีผู้ต้องหาเพิ่ม 5 รายอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 4 รายสะสมรวม 38 ราย