ไม่พบผลการค้นหา
‘ศรีนวล’ ยก ‘อนุทิน’ เป็น รมว.สธ. ทำงานนได้สุดยอดดีเยี่ยม รักษาฟรีทุกที่ อวย 'ภูมิใจไทย' ผลงานจับต้องได้ ด้าน 'คารม' ชี้รัฐบาลโชคไม่ดีเจอวิกฤตโควิด ชม 'ประยุทธ์' มีคะแนนซื่อสัตย์มากกว่า ย้ำประชาชนใช้บัตรสวัสดิการรัฐให้ใช้บัตรด้วยการสำนึกในภาษีตัวเองด้วย

วันที่ 31 พ.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ โดย ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยระบุว่า งบประมาณนี้จำเป็นต่อการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ทั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมา ในใจของคนถ้านึกถึงความดีและมีคุณธรรม จะมองเห็นค่าของคนแต่ความดี สิ่งที่ไม่ดี เราก็ต้องเก็บของเขาไว้ สิ่งที่จะต้องเอามาชื่นชมก็คือความดี ทุกรัฐบาล ตนขอชื่นชมที่ทำงานให้กับประเทศชาติบ้านเมือง รัฐบาลอดีตที่ผ่านมา ตนจำขึ้นใจว่า 30 บาท รักษาทุกโรค แต่การทำงานจับต้องได้หรือไม่ ตนทำงานมา 30 กว่าปี ก็ยังไม่เคยเห็น แต่เมื่อตนมาเป็น ส.ส.เชียงใหม่ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เห็นผลงานที่จับต้องได้ก็คือ ถนนดี น้ำไหล ไฟสว่าง พูดแล้วก็ทำ 

“สิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทำงานได้สุดยอดและดีเยี่ยม ฟอกไตฟรีทุกกรณี รักษาโรคมะเร็งฟรี 30 บาท รักษาฟรีได้ทุกที่ แล้วก็ได้ส่งเสริม อสม. ให้รู้ปัญหาและรู้บทบาทหน้าที่ของตน” ศรีนวล ระบุ

ศรีนวล ยังกล่าวถึงข้อเสียของรัฐบาลปัจจุบันนี้ โดยฝากไปยังรัฐบาลว่า ท่านทำความดีที่สุดแล้ว แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ วิทยุ สื่อโซเชียล เงียบทั้งหมด ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรับทราบเลยว่า ทุกวันนี้ท่านทำความดีอย่างไร ท่านต้องออกมาประชาสัมพันธ์ว่างบทุกปีท่านทำมาอย่างไร ให้ประชาชนได้รับทราบ 

คารม ภูมิใจไทย ประชุมสภา -3F9D-4271-8178-D9970EB2D815.jpegคารม ประชุมสภา -AA9B-4956-8BF3-9A99724C3919.jpeg

‘คารม’ ชม ‘ประยุทธ์’ ได้คะแนนซื่อสัตย์ ติงจัดงบฯกระจุกอยู่กรุงเทพฯ

จากนั้น คารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในโควตาของพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนได้ยินนักการเมืองท่านหนึ่งเปรียบร่างงบฯ ฉบับนี้ว่าเหมือน ‘ขอทานเลี้ยงวันเกิด’ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกอยากอภิปราย เพราะตนรู้สึกว่า ประเทศไทยโชคดี เพราะมีศักยภาพ เพียงแต่ผู้บริหารจะเก่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตนถือว่านายกรัฐมนตรีมีความทุ่มเท ตนไม่ได้มาชื่นชม แต่คิดว่ามีคะแนนความพยายามอยู่ ตนมองว่า ส.ส.ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดคำหยาบ หรือคิดว่าด่าแล้วคนจะชื่นชอบ และตนเองก็ไม่ได้มีหน้าที่มาชมใคร ความโชคไม่ดีของรัฐบาลนี้คือโควิด-19 สองปีซ้อน จะเก่งหรือไม่ก็ตาม ก็ทำให้เวลานี้สถานการณ์ดีขึ้น จริงอยู่คนอาจจะพูดได้ว่าไม่เก่ง แต่ความซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง ก็ยังดีกว่าคะแนนความทุจริต

“ผมเห็นว่าร่างงบฯ ฉบับนี้ ยังมีข้อควรติง ปีนี้เราขาดดุลอีกเยอะ เราเก็บภาษีได้น้อย ผมเป็นคนบ้านนอก ผมกลับบ้านนอกทุกวันศุกร์ รัฐบาลนี้จะชั่วจะเลว แต่ถนนสายมิตรภาพจากกรุงเทพฯ ไปอีสานดีขึ้น ถนนดีขึ้นมีผลต่อการเคลื่อนย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ต่างจังหวัด บางทีเราจะพูดอะไร พูดให้ประเทศชาติ คนในชาติเสียกำลังใจไม่ได้ ต้นทุนของเรามี”

คารม ยังชี้ว่า ศักยภาพของประเทศไทยยังมีอีกมาก ทั้งต้นทุนทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว มีแนวโน้มจะเจริญเติบโต ซึ่งเป็นข้อท้วงติงของตนต่อร่างงบฯ นี้ ที่เห็นว่าความเจริญยังกระจุกตัวอยู่เพียงในกรุงเทพฯ งบกระจุกในกรุงเทพฯ 68.9% ในจังหวัดอื่นๆ 31.18% เท่านั้น หากเอาความเจริญมาอยู่แต่กรุงเทพฯ จะแก้ปัญหาได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ควรให้งบแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้คนต่างจังหวัดอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิต แล้วรัฐบาลจะได้รับคำชม งบประมาณของ อปท. ไม่ควรเป็นงบอุดหนุนเฉพาะกิจ แต่ควรเป็นงบอุดหนุนทั่วไป เปิดฐานภาษีของ อปท. ให้กว้าง ตนมั่นใจว่าหลักคิดเช่นนี้จึงจะถูกต้อง

“ผมอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า งบประมาณคือภาษีท่าน ไม่ว่าบัตรอะไรที่รัฐบาลให้ไป บัตรพลังประชารัฐ ท่านต้องใช้ด้วยความสำนึกว่านั่นคือภาษีท่าน รัฐบาลกู้มาก็ต้องหาเงินไปคืน เพราะฉะนั้นถ้าเรามีจิตสำนึกร่วมกันแบบนี้ ประเทศไทยจะไปต่อได้ ประเทศไทยไม่ใช่ขอทาน และวันนี้ไม่ใช่ฉลองวันเกิด ประเทศไทยยังมีศักยภาพ” คารม กล่าว

ชัยชาญ -4962-A33F-538184E8E319.jpegชัยชาญ -4962-A33F-538184E8E319.jpeg


รมช.กลาโหม แจงจัดซื้อเครื่องบิน F-35 เพราะปลดประจำการหลายลำ ต้องหาทดแทน ย้ำวางแผนตามขั้นตอน 3 ปีเศษ

ต่อมา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงประเด็นการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 ว่ากระทรวงกลาโหมมีความจำเป็นอย่างไรจึงต้องจัดหามาประจำการ

กองทัพอากาศมีภารกิจสำคัญในการป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และอธิปไตยเหนือน่านฟ้าของไทย ยุทโธปกรณ์สำคัญหนึ่งของทัพอากาศคือเครื่องบินขับไล่โจมตี แต่เครื่องบินส่วนใหญ่ถูกจำกัดความสามารถ เนื่องจากใช้มาเป็นเวลานานกว่า 28 ปี ซึ่งมีความจำเป็นต้องทยอยปลดประจำการ เพราะขาดชิ้นส่วนอะไหล่ซ่อมบำรุง จะทำให้กองทัพอากาศมีเครื่องบินขับไล่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ และส่งผลต่อการป้องกันประเทศได้

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า การจัดหาเครื่องบินสกัดกั้นโจมตี ใช่ว่าจะจัดหาได้เลย ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปีเศษ ทั้งยังต้องมีการฝึกกำลังพลนักบินให้มีความพร้อมอีก 1 ปี กองทัพอากาศได้มีการวางแผนจัดหาเป็นระยะไปตามกรอบงบประมาณที่มีอยู่ ซึ่งตามที่สมาชิกฯ กล่าวว่า 1.38 หมื่นล้านบาทนั้น ความจริงใช้งบประมาณในภาพรวมประมาณ 7.38 พันล้านบาท โดยในปี 2566 ขั้นต้น 738 ล้านบาทเท่านั้น

“เครื่องบินที่มีอายุการใช้งานมาก นอกจากประสิทธิภาพจะลดลงแล้ว สิ่งสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักบิน ซึ่งกว่าจะฝึกนักบินให้ปฏิบัติการทางยุทธวิธีสำหรับเครื่องบินสกัดกั้นโจมตีได้ ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกมาก ต้องกราบเรียนไปยังท่านสมาชิกฯ ว่า ทัพอากาศได้วางแผนดำเนินการตามกรอบงบประมาณที่กงอทัพอากาศมี จัดทำเป็นระยะๆ ไป เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนที่จะปลดประจำการ เพือดำรงขีดความสามารถของกองทัพอากาศในการปกป้องน่านฟ้าของประเทศเราให้ปลอดภัยตลอดไป” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

‘สุชาติ’ ชี้ นักศึกษาตกงานเป็นล้านไม่จริง สวนทางกับตัวเลขการจ้างงาน

ด้าน สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจง ในประเด็นที่ อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย พาดพิงประเด็นที่นักศึกษาจบใหม่ว่างงานเป็นล้านคนว่า ใน 1 ปีการศึกษา จะมีนักศึกษาจบมาประมาณ 5 แสนคนต่อปี แต่ตามสถิติ การเรียนต่อจะอยู่ที่ 15-20% ตนมีความเป็นห่วงเช่นกัน และอยากทราบว่านักศึกษาจำนวนมากตกงานเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อตัวเลขจ้างงานยังสูง จากการสืบค้นในระบบประกันสังคม พบว่าใน 2 ปี นักศึกษาจบใหม่ประมาณ 1 ล้านคน ศึกษาต่อประมาณ 8 แสนคน มีผู้เข้าระบบการจ้างงาน 682,979 คน หรือคือ 85.85% เป็นตัวเลขที่ยืนยันได้จากระบบประกันสังคม

กระทรวงแรงงานมีงบประมาณอยู่เพียงพอและจำกัดดังที่ท่าน ส.ส.อนุรักษ์ ได้อภิปราย สำหรับปี 2563 มีอัตราการตกงานและว่างงานอยู่มากจริง แต่ได้ตีตื้นกลับมาในปี 2564-2565 ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 มีการจ้างงานไปถึง 2,45,7809 อัตรา ระยะเวลา ก.ย. 2563 จนถึงปัจจุบัน กล่าวได้ว่าเป็นการชดเชยในส่วนที่ขาดหายแล้ว

ปี 2564 ผู้ใช้สิทธิว่างงาน 7 แสนกว่าคน แม้จะออกจากงาน แต่ได้กลับมาสู่ระบบประกันสังคมอีกประมาณ 4.94 แสนกว่าคน และได้มีการจ้างงานใหม่เข้ามา ทำให้ตลาดการจ้างงานเป็นบวก ตนทราบว่า อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย มีความห่วงใยในผู้ใช้แรงงาน แต่ได้ขอมาชี้แจงเพื่อให้เกิดความถูกต้องในจำนวนตัวเลข