ไม่พบผลการค้นหา
'ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์ กันคำ' นักแสดงดาวรุ่ง จาก จ.เชียงราย ที่เข้าสู่วงการบันเทิงตามฝันของแม่ ก่อนจะพลิกมารักในเส้นทางสายนี้ พร้อมความฝันอยากเล่นหนังบู๊แบบเฉินหลง

วอยซ์ออนไลน์ พามารู้จักนักแสดงดาวรุ่ง ‘ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์ กันคำ’วัย 24 ปี หนุ่มเหนือ จ.เชียงราย มีลักยิ้มหน้าหวาน แต่ดีกรีเทควันโดสายดำ ซึ่งที่ผ่านมาเขามีโอกาสส่งผลงานละครลงจอถึง 2 ช่องดัง กับ ลองของ เดอะซีรีส์ ในบท เบรฟ หนุ่มแบดบอยชนวนของเรื่อง และ พรหมพิศวาส ในบท เดี่ยว หนุ่มนักดนตรีที่คอยประนีประนอมปัญหาในกลุ่มเพื่อน

ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์

ฟลุ๊คจ์ เล่าว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่ผลงานของเขา บทบาทหลากหลาย อย่าง ลองของเดอะซีรีส์ ก็เป็นบทเพลย์บอย ซึ่งตอนแรกเขาแอบหวั่นใจในการรับบทบาท เพราะเป็นคนกลัวผี แต่ด้วยคาแรกเตอร์ใหม่ที่ไม่เคยแสดง  และร้ายนิดๆ จึงรับงานซีรีส์สยองขวัญครั้งแรก

ขณะที่ ละครพรหมพิศวาส บท เดี่ยว คาแรกเตอร์เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเพื่อน ไม่ห่างจากตัวเองมาก ก็เป็นโอกาสที่ดีที่ได้เล่นบทนี้ แต่ก่อนมารับงานละครทั้ง 2 เรื่องนี้ เขาเคยมีผลงานซีรีส์วาย My dream The series รับบทพี่ดรีม เป็นผู้ชายแสนดี ที่เป็นนายในฝันของหลายๆ คน และทำให้มีแฟนคลับในไทยและต่างประเทศ 

เขาเล่าจุดเริ่มต้นวงการบันเทิงมาจาก คุณแม่ที่อยากให้เขาลองมาทำงานในวงการ จากหนุ่มเหนือที่เคยแต่เป็นนักกีฬาเทควันโด จึงต้องปรับเปลี่ยนชีวิต ทั้งมุมมอง ทัศนคติ และการใช้ชีวิตในวงการบันเทิง

"ในวงการนี้มีโอกาสให้ผมได้ทำอะไรเยอะขึ้น บางอย่างเราไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า เรายังไม่ได้ลองทำ ซึ่งเราอาจจะชอบก็ได้ เมื่อก่อนผมไม่คิดว่าจะชอบวงการบันเทิงเลย แต่พอได้มาลองทำจริงๆ เราชอบมัน สนุกกับมัน และมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ลองทำ มันอาจจะเหมาะกับเรากว่านี้ก็ได้ แต่ตอนนี้เราสนุกกับวงการบันเทิง นักแสดง สำหรับผมคือการได้แสดงเป็นคนอื่น ได้เข้าใจตัวละครที่ไม่ได้เอามุมของเราเข้าไปใส่"

ฟลุ๊คจ์ ยอมรับว่า แรกๆ เขาเข้าใจผิดกับคำว่านักแสดง คิดแค่ว่าพูดๆ ไปตามบท แต่เมื่อเขาได้ชิมลาง ก็รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันผิด

"ตอนแรกๆ คิดว่าการแสดงคือการพูดตามบท คือเอาตัวเราเข้าไปเล่น ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เอาตัวเราเข้าไปเล่น มันคือบทบาทตัวละคร ผมก็ยังต้องไปเรียนการแสดงเยอะอยู่ เพราะมีปัญหาทางการแสดง การใช้เสียง ที่ต้องปรับ และต้องเรียนเต้น เรียนร้องเพลง เพิ่มความสามารถรอบด้าน ผมคิดว่าวงการบันเทิงสมัยนี้ต้องมีความสามารถหลายๆ ด้าน เพราะบางทีโอกาสในบทบาทที่เราได้รับ อาจจะต้องมีร้องเพลง มีเต้น ก็เลยคิดว่าเราต้องเตรียมพร้อม"

เขาเองยังได้ร่วมงานกับหลายที่หลายบริษัท ตั้งแต่เริ่มต้น เขาคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะได้ฝึกฝีมือ กับการทำงานที่แตกต่างกันไป ซีรีส์ กับละคร จังหวะการแสดงก็แตกต่างกัน 

"อย่างตัวละครในละคร จะต้องแสดงให้ชัดกว่าปกตินิดหนึ่ง เพื่อนให้คนดูเข้าใจ ส่วนซีรีส์ การแสดงจะเป็นธรรมชาติ สามารถเล่นเป็นปกติเป็นตัวเองได้ ผมมีช่วงหนึ่งสับสนเหมือนกัน ที่ต้องแสดงทั้งละคร และซีรีส์ ต้องอาศัยการปรับตัวด้านการแสดงเยอะเหมือนกัน"

ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์
เส้นทางฝัน อยากเป็นราชานักบู๊ เฉินหลง

เห็นฟลุ๊คจ์หน้าหวานมีลักยิ้ม แต่หนุ่มเหนือคนนี้ ไม่ได้หวานเหมือนหน้าตา เขามีความสามารถทางด้านเทควันโดสายดำ บ่อยครั้งที่เขาลงภาพซ้อมกีฬา แฟนๆ มักจะตกใจในรูปลักษณ์ที่ดูจะขัดตา จนตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับให้ว่า 'กระสอบทรายของนายลักยิ้ม' เขาเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ฝันในวงการบันเทิงของเขา คือเป็นแบบราชานักบู๊ 'เฉินหลง'

"ผมอยากเป็นเหมือนเฉินหลง อยากทำได้แบบเฉินหลงเลย เล่นเอง เจ็บตัวบ้างชอบแบบนั้น ผมมีความสามารถเรื่องการต่อสู้เทควันโดสายดำ ถ้ามีโอกาสเล่นบทบู๊ ผมอยากเอาการต่อสู้มาผสมผสาน มวยผสมเทควันโด เขาเรียก มาร์เชียลอาร์ต ผมชอบหนังเรื่อง กังฟู ดังค์ ที่เจย์ โชว แสดง เรื่องนี้ทำให้ผมชอบบู๊ไปเลย และอีกเรื่อง คาราเต้ คิดส์ ที่เฉินหลงแสดง ทำให้ผมเปิดโลกและชอบวงการบันเทิงด้วย แต่ตอนนี้ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้แสดงบทบู๊ แบบที่ชอบเลย"

ในวันนี้ที่ ฟลุ๊คจ์ ได้เริ่มก้าวเข้ามาสู่ในวงการบันเทิง เขาได้แต่หวังว่า เขาจะเป็นนักแสดงที่ดี ที่สร้างสรรค์บทบาทที่หลากหลายแตกต่างให้กับผู้ชม

ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์