ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมรัฐสภา พิจารณาญัตติเเก้ไขรัฐธรรมนูญ วิปฝ่ายค้านได้เเถลงท่าทีต่อสื่อมวลชน โดย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวสั้นๆ ว่า ฝ่ายค้านพยายามอย่างเต็มที่เเล้ว รู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญในการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ 

ด้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า "รู้สึกผิดหวัง เเต่ไม่หมดหวัง" ซึ่งที่ผ่านมาทำงานอย่างหนัก เพื่อเสนอทางออกให้ประเทศ เเต่เสียใจที่รัฐบาลไม่เห็นทางออก เเละเททุกอย่างทิ้งลงเเม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตามยังมีร่างของโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ที่จะเสนอในการประชุมรัฐสภาสมัยหน้า ในเดือน พ.ย. ดังนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยื่นญัตติเเก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศออกจากทางตันให้ได้

การคว่ำญัตติในครั้งนี้ มองว่าเป็นการประวิงเวลา ไม่ใช่เเค่ 1 เดือน เเต่อาจถึง 8-9 เดือน เพราะหากสมัยหน้าญัตติถูกตีตกอีก จะไม่สามารถเสนอญัตติที่มีความคล้ายคลึงกันได้อีกเลย

ด้าน สุทิน คลังเเสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวปิดท้ายสั้นๆว่า "วันนี้ไม่ใช่วันจบสิ้น เราจะต้องสู้ไปอีกนาน"

ปชป.แถลงค้านตั้ง กมธ.ยื้อเวลา แต่เสนอ ส.ส.เป็น กมธ.

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงกรณีไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาก่อนลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับส่ง ส.ส.เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากต้องเคารพหลักเสียงข้างมาก เมื่อเสียงข้างมากเห็นว่าควรตั้งคณะกรรมาธิการ จึงต้องส่ง ส.ส.เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการด้วย และจะเป็นประโยชน์เพื่อติดตามศึกษาความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมือนกับการลงมติเสนอร่างกฎหมายบางฉบับ แม้ไม่เห็นด้วยแต่ก็จำเป็นต้องเสนอบุคคลเข้าเป็นกรรมาธิการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ในจุดที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงต้องทำหน้าที่อย่างมีสปิริตในฐานะนักการเมืองในระบบรัฐสภา

ส่วนจะถึงจุดที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาลแล้วหรือไม่ เนื่องจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่จริงใจ เสนอเลื่อนการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชินวรณ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเป็นเรื่องที่ต้องมีการดำเนินการต่อไป เพียงแต่ฝ่ายเสียงข้างมากเห็นว่าควรขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน เพื่อให้ ส.ว.และ ส.ส. ที่ยังมีประเด็นปัญหาขัดข้องใจอยู่มาศึกษาก่อนรับหลักการ จึงจะต้องให้เวลาเพื่อให้เป้าหมายสุดท้าย คือการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้จริง เพราะหากปฏิเสธทุกอย่างทันที ก็ไม่สามารถร่วมงานกันได้ และจะไม่สามารถเดินหน้าไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ตั้งไว้ ซึ่งจุดที่จะตัดสินใจ ก็อยู่ที่รัฐบาลจะทำตามนโยบายของพรรคได้หรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 แก้ไขได้ยาก จึงต้องให้เวลาทำการศึกษาต่อไป