ไม่พบผลการค้นหา
ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ยื่นฟ้องรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากมีคำสั่งประธานาธิบดีระงับการดำเนินคดีให้เหยื่ออาชญากรรมสงครามทั่วโลก

ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ร่วมกันยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ หลังมีการออกคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อมิ.ย.ที่ผ่านมา ข่มขู่ว่าจะมี “ผลร้ายแรงตามมา” หากใครช่วยเหลืองานของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) โดยมีการเรียกร้องให้ศาลสั่งระงับคำสั่งดังกล่าวในระหว่างที่ศาลกำลังพิจารณาคดี

ทนายความ 4 คนและกลุ่ม Open Society Justice Initiative (OSJI) ได้ยื่นฟ้องโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง วิลเลียม บาร์ อัยการสูงสุด แอนเดรีย แก็กคี ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ 

ฝ่ายโจทก์ระบุว่า คำสั่งประธานาธิบดีใช้คำที่คลุมเครือ จนทำให้ทนายด้านสิทธิมนุษยชนหลายคนจะต้องยกเลิกการพูดสุนทรพจน์ การนำเสนอข้อมูล ยุติงานวิจัย เลิกเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับ ICC และยุติการให้คำแนะนำและความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมสงครามทั่วโลก ซึ่งถือว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 

ไดแอน มารี อามาน อาจารย์กฎหมายระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย และหนึ่งในโจทก์ฟ้องรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่า นี่เป็นการตี ต่อยท้อง และปิดปากกิจกรรมที่งานของฉันมาตลอดชีวิต” และคำสั่งประธษนาธิบดีเป็นการทรยศจุดยืนของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้นำโลกด้านสิทธิมนุษยชนมาตลอด รวมถึงการตั้งศาลยุติธรรมนูเร็มเบิร์กและการตั้ง ICC

อามานเคยเป็นที่ปรึกษาพิเศษด้านเด็กในพื้นที่ความขัดแย้งโดยไม่รับเงินเดือนให้กับอัยการของ ICC เมื่อปี 2555 อามาน กล่าวว่า เธอทำงานเป็นตัวแทนเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง คนที่ถูกฆ่า ทรมาน ล่วงละเมิดทางเพศ บังคับให้เป็นทหารเด็ก และเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ต้องหยุดทำงานเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจถูกคว่ำบาตร ซึ่งอาจรวมถึงการถูกยึดทรัพย์สินของครอบครัวด้วย และเธอยังไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการวิจัยของนักศึกษาที่ช่วยทำงานในประเด็นนี้ เพราะกลัวว่าจะทำให้พวกเขาถูกคว่ำบาตร

ด้านเจมส์ โกลด์สตัน ผู้อำนวยการบริหารของ OSJI ออกแถลงการณ์ว่า การออกคำสั่งประธานาธิบดีดังกล่าวเป็นการทรยศจุดยืนการส่งเสริมความยุติธรรมสากล ดูแคลนพันธมิตร และละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ พวกเขาจะขึ้นศาลเพื่อให้ยุติการโจมตีอย่างอุกอาจต่อสถาบันตุลาการและเหยื่อ

หลังจากมีคำสั่งประธานาธิบดี เดือนก.ย.ก็มีการออกมาตรการคว่ำบาตรฟาโท เบนโซดา อัยการของ ICC และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ICC อีกคน แม้ปกติการคว่ำบาตรมักจะใช้กับผู้ลักลอบขนยาเสพติดและผู้ก่อการร้าย

การคว่ำบาตรเป็นการตอบโต้ที่ ICC ตัดสินว่าจะสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามโดยทุกฝ่ายในอัฟกานิสถาน รวมถึงโดยกองทัพสหรัฐฯ ด้วย และปอเปโอยังโจมตี ICC ที่สอบสวนการกระทำของอิสราเอลในปาเลสไตน์

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า การคว่ำบาตรได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีส่วนกับกิจกรรมที่เป็นภัยต่อนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหรัฐฯ หรือให้ความช่วยเหลือบุคคลลักษณะดังกล่าว รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนของ ICC โดยตรงในการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐ หรือคนที่ให้การช่วยเหลือ


ที่มา : The Guardian, Reuters