ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีอุทยานฯ เอาจริง รับมือนักท่องเที่ยวช่วงลมหนาว-ปีใหม่ คุมเข้มห้ามนำเหล้าเบียร์เข้าพื้นที่ ฝ่าฝืนคุก1เดือน ปรับ1,000บาท พบเห็นแจ้งสายด่วน1362 ตลอด 24 ชม. ด้านผอ.เครือข่ายงดเหล้าพร้อมเป็นหน่วยเฝ้าระวัง

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทัรพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับมอบป้ายประชาสัมพันธ์ “อุทยานแห่งชาติเขตปลอดสุรา” จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) เพื่อนำไปใช้เป็นสื่อรณรงค์และติดประชาสัมพันธ์ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าในพื้นที่และวนอุทยานทุกแห่งทั่วประเทศ

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งขณะนี้ต่างชาตินิยมมาเที่ยวชมธรรมชาติมากขึ้น นักท่องเที่ยวมีการจองที่พักในอุทยานเต็มทุกพื้นที่แล้ว ทางกรมอุทยานฯเอง ได้เตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ที่พัก ห้องน้ำ ความปลอดภัย ความสะอาด การกำจัดขยะ แต่สิ่งที่กังวลใจมากที่สุด คือ การส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาทเนื่องจากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 ดังนั้นจึงได้มอบนโยบายและกำชับเจ้าหน้าที่อุทยานทั่วประเทศให้เข้มงวด ห้ามนักท่องเที่ยวนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในอุทยาน ตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืชหากฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน1เดือน ปรับไม่เกิน1พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะเชิญออกจากพื้นที่ทันที นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อุทยานทั่วประเทศ จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วย ซึ่งจะเป็นกิจกรรมทดแทน สร้างสรรค์ เป็นศิริมงคลและช่วยให้การดื่มเหล้าเบียร์ลดลง

 “ทางกรมฯเป็นห่วงเรื่องการมึนเมา ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน คนที่เข้าไปในอุทยาน ต่างต้องการความสงบ อยากสัมผัสธรรมชาติ ดังนั้นเชื่อว่าการสื่อสารประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ มีป้ายแจ้งเตือนชัดเจน มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตรงจุดจำหน่ายตั๋วให้แจ้งเตือน หวังว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และใช้เป็นกฎกติการ่วมกัน ซึ่งถ้าหากตรวจพบการลักลอบนำเหล้าเบียร์เข้าไปจะต้องมีความผิดและต้องออกจากพื้นที่ทันที เพราะถือว่าได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ขณะเดียวกันหากพบว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เข้มงวดก็ถือว่ามีความผิดด้วย ทั้งนี้หากผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดในอุทยาน สามารถโทรมาที่สายด่วน 1362 ได้ตลอด24ชั่วโมง” อธิบดีกรมอุทยาน กล่าว

ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ปัญหาทะเลาะวิวาท รบกวนนักท่องเที่ยว อุบัติเหตุเจ็บตาย สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเมาสุรา ปาขวดแก้วแตกเป็นอันตรายกับทั้งนักท่องเที่ยว และสัตว์ป่า ส่งเสียงดังรบกวน และอาจทำร้ายผู้อื่น ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย บางกรณีมีเหตุรุนแรง เช่น การข่มขืนฆ่า ทำให้เสียชื่อเสียงไปทั่วโลก

ดังนั้นขอชื่นชมท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่เห็นความสำคัญของปัญหานี้ ใช้มาตรการให้พื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศห้ามขาย ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของมึนเมาทุกประเภท ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องนำมาบังคับใช้ เพื่อปกป้องนักท่องเที่ยว ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ หยุดปัญหาที่จะตามมา และจากการลงพื้นที่ของเครือข่ายฯพบว่า หลายพื้นที่เริ่มดีขึ้นและทราบถึงมาตรการนี้แล้ว โดยเครือข่ายฯที่มีอยู่ทั่วประเทศจะช่วยเฝ้าระวังและเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทาง สสส. และภาคีเครือข่ายได้สนับสนุนป้ายประชาสัมพันธ์ ห้ามนำเหล้าเบียร์เข้าอุทยาน ส่งไปยังอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน เป็นป้ายไวนิลจำนวนกว่า 2,000 ผืนและป้ายพลาสติกถาวรอีกกว่า 5,000 แผ่น