ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนช. เตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 'กรณีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่' ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่การแก้ไขกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อาจเพิ่มโทษผู้ละเมิด

พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วยกรรมาธิการ แสดงความกังวลและห่วงใยต่อกรณีที่มีบุคคลพร้มด้วยอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยเข้าไปพักแรมบริเวณพื้นที่หวงห้ามและคุกคามชีวิตสัตว์ป่า ซึ่งเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นการกระทำความผิดหลายฐาน

ทั้งนี้ นายสนิท อักษรแก้ว ยอมรับว่า กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันยังมีบทลงโทษน้อยเกินไป ตนเห็นว่าควรแก้ไขกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ผู้ที่จับหรือล่าสัตว์ป่าสงวน และผู้ที่เปิดทางให้บุคคลเข้าไปล่าสัตว์ มีโทษหนักและรุนแรงขึ้น เพื่อให้วัฒนธรรมเช่นนี้เลิกไปเสียที

ทั้งนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 08.30 น. ที่ห้อง 311 อาคารรัฐสภา2 ทางคณะกรรมาธิการฯ จะได้เชิญ นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มาให้ข้อมูลและให้กำลังใจ ส่วนจะมีการตรวจสอบอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหลักฐาน

ขณะที่คณะกรรมาธิการฯ มีอำนาจพิจารณาในเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบการร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการฯ ก็จะมีการตรวจสอบเป็นกรณีไป

'ศรีสุวรรณ' ร้อง ก.ล.ต. เพิกถอน 'อิตาเลียนไทย'

ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า กรณีนายเปรมชัย ได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ อีกทั้งนายเปรมชัย เป็นถึงกรรมการและผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) และเป็นบริษัทที่ประมูลรับเหมางานของภาครัฐจำนวนมกา พฤติการณ์และการกระทำของนายเปรมชัย จึงขัดต่อหลักธรรมาภิบาลและขัดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรือ่งการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2542 ทึ่บัญญัติไว้ว่า “กรรมการและผู้บริหารของบริษัทมหาชนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย” ซึ่งเป็นเหตุให้ ก.ล.ต.สามารถเพิกถอนหลักทรัพย์หรือบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้

ดังนั้น ในวันที่ 13 ก.พ. 2561 เวลา 10.30 น. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำความไปร้องเรียนต่อเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และไต่สวนข้อเท็จจริง หากพบความผิดตามกฎหมาย จะได้นำไปสู่การลงโทษนายเปรมชัย ในฐานะประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจเข้าข่ายถูกเพิกถอนการจดทะเบียนได้ต่อไป

อ่านเพิ่มเติม: