ไม่พบผลการค้นหา
พรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่อนแถลงการณ์ จี้รัฐบาลไขก็อก หลังแก้ปัญหาโควิด-19 ล้มเหลว เตรียมยื่นป.ป.ช. เอาผิดฐานปล่อยปละละเลย โดย 6 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้ 'ประยุทธ์' ลาออกพ้นนายกฯ ชง 3 ขั้นตอนผ่าทางตันตั้งรัฐบาลใหม่-แก้ รธน. -ยุบสภา

พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์ระบุถึงการบริหารประเทศในช่วงประเทศเข้าสูภาวะโรคระบาดโควิ-19 ว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองและเข้าบริหารราชการแผ่นดินรวมเวลาที่อยู่ในอำนาจเกือบ 7 ปีเต็ม แต่การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ฯ และคณะรัฐมนตรี กลับล้มเหลวเกือบทุกด้าน สร้างปัญหาและผลกระทบต่อประเทศ และความทุกข์ยากเดือดร้อนแก่ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤตปัจจุบัน ดังนี้

1. ล้มเหลวและมีความผิดพลาดในการจัดการการระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดหาวัคซีน การกระจายวัคซีน การฉีดวัคซีน จนกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนวัคซีนและฉีดวัคซีน อันดับท้ายๆในภูมิภาค นอกจากนั้นรัฐบาลกลับเป็นต้นตอเสียเองในการระบาดในหลายๆระลอก ความล้มเหลวในการควบคุมการระบาด จนกลายเป็นประเทศที่อัตราการแพร่เชื้อต่อคนสูงที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง การจัดการเรื่องเตียง และ ICU ผิดพลาดจนประชาชนต้องนอนรอความตายโดยไม่สามารถเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้

2. ล้มเหลวในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ ตลอดเวลาที่บริหารมาเกือบ 7 ปีกว่าก็ย่ำแย่อยู่แล้ว การระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ล้มเหลวที่สุดในโลกด้านเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวช้าที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ด้านเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชนยากลำบากจากมาตรการเยียวยาที่ผิดพลาด ไม่ตรงจุด ไม่เพียงพอ ธุรกิจล้มตายจำนวนมากเพราะมาตรการด้านสินเชื่อล้มเหลว แรงงานว่างงานมากสุดในรอบกว่าสิบปี พี่น้องประชาชนเข้าสู่ภาวะไม่ตายเพราะโรค ก็ตายเพราะไม่มีจะกิน

3. ล้มเหลวในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศ สนับสนุนพวกพ้อง ทำลายผู้เห็นต่าง สร้างความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน อาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเป็นเครื่องมือและข้ออ้าง เพื่อดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์และอำนาจของตน โดยไม่ได้ใช้เพื่อการควบคุมการระบาดแต่อย่างใด หลอกลวงประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อต้องการรักษาอำนาจและต่อท่ออำนาจของตนเองให้ขยายออกไป นอกจากนี้ภายใต้กลไกของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แม้จะมีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอาผิดได้ จนทำให้การทุจริตคอรัปชั่นในช่วงของรัฐบาลนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์


ไร้กึ๋น ไร้ทิศทาง

พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ความล้มเหลว ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ทุจริตคอรัปชั่นเพื่อตนเองและพวกพ้อง ไร้ทิศทางในการบริหารราชการแผ่นดินเหล่านี้ ถ้าปล่อยไป รังแต่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศและประชาชนจนไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้ กลายเป็นความเสียหายถาวรต่อประเทศ โดยประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่พ่ายแพ้ต่อโควิด-19 และพ่ายแพ้ด้านเศรษฐกิจ อย่างไม่น่าให้อภัย พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นว่า เพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลจำเป็นต้องยุติบทบาทในการบริหารประเทศโดยทันทีด้วยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ ไม่ยึดติดอยู่กับอำนาจและผลประโยชน์เข้ามาบริหารประเทศ

นอกจากนี้ รัฐบาลนี้มักใช้อำนาจเพื่อสั่งการจากบนลงล่าง ไม่เคารพในการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงที่ผ่านมา ต้นเหตุมาจากรัฐธรรมนูญที่ท่านวาดหวังให้เป็นฐานรองรับเจตนาสืบทอดอำนาจ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อตัวท่านและพวกท่านเท่านั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นว่า หากเราต้องการก้าวไปสู่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตัดต้นตอของปัญหาซึ่งประกอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 และรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติให้มีผลบังคับใช้ เพื่อจัดทำประชามติยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเก่า แล้วจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นคู่ขนานไปกับการเดินหน้ายกเลิกอำนาจของวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการตัดวงจรสืบทอดอำนาจของระบอบเผด็จการอย่างถาวร

ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกัน ให้ฝ่ายกฏหมายรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อดำเนินคดีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็น กรณีมีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 53 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงโดยได้ปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้เชื้อโรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดใหญ่ ประชาชนต้องล้มป่วยและเสียชีวิตไปจำนวนมากต่อไป

สุดท้ายนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงต้องลาออกจากตำแหน่งสถานเดียว และไม่กระทำการใดๆที่จะเป็นการวางกับดัก ต่อท่ออำนาจของตนเองต่อไป

ฝ่ายค้าน 8-D34A-465C-9034-AC30E50FE018.jpeg

ชี้ต้องถอด 'ประยุทธ์' พ้นนายกฯก่อน

โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้ว่าถึงเวลาหรือยังที่ประชาชนต้องเลือกระหว่าง "พล.อ.ประยุทธ์กับประเทศ" หากเลือกประเทศสลักแรกที่จะต้องถอดคือพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าจนถึงเวลาที่เผชิญกับวิกฤต มีคนเจ็บป่วยล้มตายเหมือนใบไม้ล่วง และวันนี้รัฐบาลต้องรับความจริงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช้อำนาจไม่พอ หรืองบประมาณไม่พอ แต่เป็นความไร้ความสามารถ ไร้ความจริงใจ ไร้ประสิทธิภาพและไร้ยุทธศาสตร์ในการจัดการกับปัญหา ประชาชนต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ และอีกหลายคนยังต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ต้องสูญเสียเวลาในการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว

ซึ่ง 6 หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่สามารถทนได้ สิ่งที่ประเทศต้องทำ ไม่ใช้การเพิ่มอำนาจให้ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ต้องเอา พล.อ.ประยุทธ์ออกจากอำนาจ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการแสดงความรับผิดชอบ ต่อการบริหารประเทศ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง และยุติบทบาททันที เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลใหม่ที่เป็นมืออาชีพเข้ามาบริหาร และต้องตัดอำนาจถอนรากโคน กลไกและกติกาที่เปิดทางให้รัฐบาลชุดนี้เกิดขึ้น คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้มีการทำประชามติถามประชาชนว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควบคู่กันในระยะสั้นยังจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ในการตัดอำนาจวุฒิสภา ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกลจะไม่ยอมรับข้อเสนอใดจากพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะข้อเสนอของไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ 

ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังเสนอโรดแมป เพื่อนำประเทศออกจากวิกฤติ 3 ขั้นตอน คือ 1.รัฐบาลต้องลาออก 2.ตั้งรัฐบาลใหม่ชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ การแพร่ระบาดโควิด กับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตัดท่ออำนาจ คสช. และ 3.ยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ 

ฝ่ายค้าน ประเสริฐ ทวี วิรัตน์ ชัยธวัช 71-9FCC-1BB1DCC37A3F.jpegฝ่ายค้าน พิธา สมพงษ์ 1F214B97-0DFB-4698-8493-4384A8078C73.jpeg

วันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่คณะรัฐมนตรี โอนอำนาจ 31 พ.ร.บ.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจและกฎหมายหากอยู่ในมือคนดีก็ย่อมจะเป็นประโยชน์แต่หากอยู่ในมือคนโง่และคนที่ขาดจิตสำนึกย่อมจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง 

ทั้งนี้ยอมรับว่าข้อเรียกร้องที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกของฝ่ายค้านอาจจะไม่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกได้โดยง่ายจึงขอความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมกันกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่เก่งมาบริหารประเทศแทน

ด้าน สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลใช้อำนาจปกครองอย่างไม่เป็นธรรม ในเมื่อประชาชนไม่มีความน่าเชื่อถือในตัวของนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นควรลากออกไป เห็นแก่ประเทศชาติ 

ขณะที่ นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชน กล่าวว่า รัฐบาลขาดความสามารถในการจัดหาวัคซีนให้ทันต่อเหตุการณ์ หากวันนั้นประชาชนทนไม่ไหว วันนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ควรรีบตัดสินใจ