ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ตร. และนายกฯส.บอล เชื่อมีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังล้มบอลมากกว่า 12 ราย เตรียมขยายผลหาผู้ต้องหาเพิ่มหลังกุมขบวนการล้มบอลในไทยลีกและออกหมายจับ 12 ราย ที่มีตั้งแต่นักเตะ กรรมการตัดสิน จนถึงผู้บริหารสโมสร

วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ห้องศรียานนท์ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม 12 บุคคลที่มีรายชื่อพัวพันกับการล็อคผลการแข่งขันล่วงหน้า หรือล็อคผล การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่าได้ตั้งทีมกว่า 30 นาย ร่วมกันทำงาน เก็บข้อมูลจากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พบว่า มีขบวนการล้มบอลจริง โดยจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีข้อมูลการจับกุมผู้ต้องหา เพราะหากหลักฐานไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถให้ศาลออกหมายจับได้ เมื่อศาลพิจารณาแล้วพบว่าพยานหลักฐานมีอยู่นั้นเพียงพอจึงอนุมัติออกหมายจับ

"อย่างทีมผม โปลิศ เทโร ก็โดน ไม่ใช่โดนแล้วมาหาเรื่องหาราว มาเฟียฟุตบอลมีแต่ทีมใหญ่ๆ ทั้งนี้ และมีทีมกลางๆคอยร่วมมือ ซึ่งผมไม่บอกชื่อ เพราะจะเป็นการพาดพิง แต่ข้อมูลต่างๆอยู่ที่ตำรวจหมดแล้วโดยนครทีมงานของนครบาลและสอบสวนกลาง"

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ ต้องรอดูผลไป ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ซึ่งต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ส่วนตัวอยากให้วงการฟุตบอลรุ่งโรจน์เหมือนประเทศอื่นๆ ไม่ได้เจตนาทำร้ายใคร แต่สิ่งเหล่านี้ถ้ายังเกาะกินอยู่ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวหมด และได้มีการประกันตัวหมดแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงของการสืบสวนข้อมูล จึงยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย หากพบผิดจริงก็พร้อมจับกุม

ส่วนการสอบสวน พบว่ามีการล็อกผลสกอร์จริง ใน 4 นัด ประกอบด้วย วันที่ 26 ก.ค. , วันที่ 10 ก.ย. , วันที่ 17 ก.ย. , วันที่ 23 ก.ย. และออกหมายจับนี้เป็นเพียงแค่ล็อตแรกเท่านั้น ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายจับบุคคลนอกเหนือจาก 12 คนนี้อีก

S__15343623.jpg

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การล็อกผลฟุตบอลมีนายทุนจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อย่างที่เคยมีข่าวว่า มีฟุตบอลซีเกมส์ 2017 ระหว่าง ไทยพบกัมพูชา มีการล็อคสกอร์เกิดขึ้น

พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวอีกว่า การล็อกผลฟุตบอลมีนานมากแล้วตั้งแต่อดีต รวมถึงมีผู้บริหารสมาคมฟุต บอลฯชุดเก่าร่วมด้วย แต่ขอไม่เอ่ยชื่อ ซึ่งขอย้ำว่า ไม่ได้เป็นการกล่าวลอยๆ แต่มีพยานโดยเป็นคำให้การของนักกีฬารวมถึงผู้ตัดสิน 

ส่วนกรณีให้มีการประกันตัวผู้ต้องหาออกไปนั้น ระบุว่า มีหลักการพิจารณาเห็นว่าผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีคดีหรือข่มขู่ รวมทั้งสร้างปัญหากับพยานหลักฐานหรือพยานบุคคลได้ ซึ่งผู้ต้องหาต้องมารายงานตัวและมาให้ปากคำตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนจะไม่สามารถมาทำหน้าที่ในวงการฟุตบอลได้อีก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด พร้อมย้ำว่า หากเปรียบคดีนี้เหมือนมวย นี่เพียงแค่การชกแค่ยกแรกเท่านั้น ซึ่งพยายามสืบสวนหาหลักฐาน และดำเนินการขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้นให้ได้


รายชื่อ 12 ผู้กระทำผิดและถูกออกหมายจับ มีดังนี้

นักฟุตบอลอาชีพ 5 ราย

1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี

2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ทีมราชนาวี

3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี

4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี 

5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู ทีมนครราชสีมา 

กรรมการผู้ตัดสิน 2 ราย

1.นายภูมิรินทร์ คำรื่น

2.นายธีรจิตร สิทธิศุข 

ผู้บริหารสโมสร 1 ราย

1.นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ

กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย

1.นายวัลลภ สมาน 

2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา 

3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ 

4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล