ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาจุฬาฯกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน ขอมองอนาคตเรียนรู้ประวัติศาสตร์ บอกยุทธศาสตร์ชาติแก้ไขได้หากมีเหตุผลเพียงพอ ด้าน "เนติวิทย์" เข้าฟังปาฐกฐาครั้งนี้ด้วย

วันนี้ (9 เม.ย.61) ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดกิจกรรม "CU Calibre:shaping the nation's future" โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน" ซึ่งมีเหล่านิสิตมาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ทั้งนี้ เมื่อพลเอกประยุทธ์ เดินทางมาถึง ได้วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ระยะเปลี่ยนผ่านนั้นเป็นระยะที่สำคัญ ส่วนจะดีหรือไม่ดีไม่สามารถทราบได้ แต่ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกกิจกรรมเพื่อลดความขัดแย้ง และสิ่งอื่นๆ ต้องคลี่คลายให้ดีกว่าเดิม ซึ่งวิสัยทัศน์ที่สำคัญจะต้องมองไปข้างหน้าและอย่ามองอดีตอย่างเดียว ส่วนอดีตคือการเรียนรู้และความภาคภูมิใจ หากอดีตไม่ดีต้องอย่าทำอีก เพราะวันนี้คือประวัติศาสตร์ในอนาคต และต้องเตรียมการณ์สอดคล้องกับสถานการณ์วันหน้า 

20180409124302.jpg


พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต้องวางกรอบหลักการให้ประเทศทุกๆ 5 ปี ยอมรับว่ามีคนส่วนหนึ่งไม่ต้องการยุทธศาสตร์ชาติ แต่หากไม่มียุทธศาสตร์ชาติประเทศจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ยืนยันยุทธศาสตร์ชาติสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีเหตุผลเพียงพอ และย้ำว่าตนไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกับหยอกล้อกับนักศึกษาว่า ตนจะออกข้อสอบในวิชาเบล็ดเตล็ดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้กับนักศึกษาได้ทำข้อสอบด้วย ดังนั้นต้องมีเรือธงสำคัญ ให้กับทั้ง 2 ฝ่ายนอกเหลือจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านตามหลักประชาธิปไตย เพื่อผ่านคลื่นลมอุปสรรคอีกเยอะแยะ และต้องเป็นเรือธงที่พาเรืออื่นๆ ไปพร้อมกัน ส่วนนโยบายพรรคก็ว่ากันไป และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนั้นเชื่อว่าต่อไปอาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่ขออย่ามาโทษตนในเรื่องนี้

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาต้องผลิตคนตรงความต้องการของประเทศ ซึ่งตนไม่ได้ร่ำรวยตั้งแต่เด็ก แต่มีความตั้งใจที่จะรับราชการทหารเพื่อให้ได้ยศนายพลและเกษียญลงตามขั้นตอนเท่านั้น และไม่ได้มีความตั้งใจเข้ามาเป็นนายกฯแต่ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้ตนต้องมายืนตรงนี้ ดังนั้นขอนักศึกษาตั้งมั่นเพื่อเป็นคนดีและคิดว่าจะทำงานในด้านใด ซึ่งหลายคนมีความตั้งใจเป็นทหาร หมอ และครู จึงขอให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามตั้งแต่เด็กจนโต พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ยังข้าราชการทุจริตมีอยู่ส่วนนึง แต่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกจิตใจของคน ยืนยันว่าตนเร่งแก้ทุจริตให้ได้โดยเร็ว ซึ่งการเขียนกฎหมายออกมาเกี่ยวกับจริยธรรมและคุณธรรม แต่กฎหมายจราจรก็ยังบังคับไม่ได้เลยเพราะอยู่ใจคน โดยกฎหมายนั้นไม่ได้บังคับใคร แต่กฎหมายเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทำกฎหมายเพื่อเพิ่มภาระแต่ต้องอำนวยความสะดวก ขออย่านำรัฐธรรมนูญนำมาทะเลาะกัน 



S__28115056.jpg

ทั้งนี้ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมรับฟังการปาฐกถาในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ที่มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แยกตัวนายเนติวิทย์ขี้นไปนั่งบนชั้นลอยของหอประชุม มีเจ้าหน้าที่สันติบาลคอยประกบอยู่นั้น

ผู้สื่อข่าววอยซ์ออนไลน์ ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่จัดงานว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนที่นายเนติวิทย์ต้องไปนั่งอยู่ชั้นบน เป็นเพราะชั้นล่างเต็ม จึงต้องขึ้นไปนั่งข้างบนตามปกติ โดยมีเพื่อนนิสิตอีกมากกว่า 100 คน

ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และแนะนำการนั่งให้นิสิตแต่ละโซน การแบ่งเจ้าหน้าที่และนิสิตจากการแสกนบัตรนิสิตเก็บข้อมูล AT เช่นเดียวกับหลายๆกิจกรรมของมหาวิทยาลัย และมีการตรวจอาวุธ สำหรับสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนเข้างานก็จะมีโซนที่นั่งตามที่มหาวิทยาลัยได้จัดไว้ให้


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง