ต่างประเทศ
ยูเอ็นเรียกร้อง ‘ปล่อยนักกิจกรรม’ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
ในวันอังคารที่ 22 พ.ค. เฟซบุ๊กของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำจำภาคพื้นทวีปเอเชีย ซึ่งมีที่ทำการในกรุงเทพฯ ออกถ้อยแถลงระบุว่า ทางสำนักงานเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรม “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ที่ถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ ในข้อหาละเมิดคำสั่ง คสช. ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน
ถ้อยแถลงระบุว่า ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค. ทางสำนักงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆของยูเอ็น เข้าสังเกตการณ์การชุมนุมโดยสงบของนักกิจกรรมการเมืองกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในปลายปี 2561การชุมนุมจัดขึ้นในโอกาสครบสี่ปีของการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
จนกระทั่งในตอนเย็นของวันนี้ (22 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้นำของกลุ่มและนักกิจกรรม รวม 11 คน
สำนักงานฯเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง ขอให้รัฐบาลไทยเคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการชุมนุมโดยสงบ ในฐานะที่ไทยเป็นภาคีในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง.
แอมเนสตี้ ทวงสัญญา คสช. เลิกคำสั่งจำกัดสิทธิ
ขณะที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ในวาระครบรอบ 4 ปีของการรัฐประหารระบุว่า ใกล้ถึงวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องปฏิบัติตามคำสัญญาที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
โดย แคทเธอลีน เกอร์สัน (Katherine Gerson) เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คำสั่งของ คสช. ที่ออกมาตั้งแต่หลังการทำรัฐประหารเป็นการจำกัดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางและปราศจากความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิง มาตรการพิเศษนี้ควรนำมาใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ผ่านมา 4 ปีแล้วคำสั่งเหล่านี้ยังคงถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัดโดยทางการ ซึ่งส่งผลให้มีการปฏิบัติมิชอบจำนวนมาก
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังระบุเพิ่มเติมว่า คสช. จะต้องยกเลิกกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกอย่างสงบของประชาชนอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายและคำสั่งที่เป็นเผด็จการที่พุ่งเป้าไปที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมและฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองซึ่งใช้สิทธิมนุษยชนของตนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคมและการชุมนุมอย่างสงบ ประชาชนหลายร้อยคนไม่ควรถูกดำเนินคดีอาญาเพียงเพราะการแสดงความเห็นและเข้าร่วมการประท้วงอย่างสงบ
ภาพ: AP
