ไม่พบผลการค้นหา
สุริยะใส กตะศิลา ปฏิเสธสรุปบทเรียน 9 ปีพธม.ยึดสนามบิน เพราะเกรงกระทบคดีความ ขณะที่อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ผู้ดูแลพื้นที่สนามบินในขณะนั้นเห็นว่า เป็นบทเรียนที่สร้างความเสียหายให้ประเทศไม่คุ้มเป้าหมายที่ได้รับ

บทเรียน 9 ปี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าบุกยึดสนามดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิใน24 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2551 รวม 10 วัน ให้อะไรกับสังคมไทยบ้าง

กองบรรณาธิการวอยซ์ทีวี ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในขณะนั้น แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะสรุปบทเรียนในเรื่องนี้ เพราะมีปัญหาคดีความที่พัวพันกันจำนวนมาก จนทำให้การออกมาพูดในเรื่องนี้อีกครั้งอาจจะสร้างปัญหาต่อรูปคดีได้

สุริยะใส.jpg

อย่างไรก็ตาม บทเรียนในมุมของ พลตำรวจโท ฉลอง สนใจ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับคำสั่งดูแลพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนั้น มองย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เห็นว่า

 เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับความเสียหายทางเศรษฐกิจ และความน่าเชื่อถือของประเทศไทยต่อนานาอารยประเทศ ขณะที่ตัวแกนนำเองก็มีในความผิดต่างๆ อาทิ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน // คดีร่วมกันก่อการร้าย // และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

พลตำรวจโท ฉลอง เล่าย้อนเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าบุกยึดสนามสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 ขณะนั้นเจ้าหน้าที่มีแค่แผนกรกฎ 48 เน้นหลักเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกประกาศใช้หลังผ่านไป 2 วัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจราว 16 กองร้อย ไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มผู้ชุมนุมกระทั่งเข้ายึดสนามบินในที่สุด

“จุดเริ่มการชุมนุมมาจากผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาที่สนามบินเพื่อรอรับ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะไปประชุมต่างประเทศกลับมาลงสุวรรณภูมิ ทำให้ท่านลงไม่ได้ ต้องไปลงเชียงใหม่”

33_1.jpg

พลตำรวจโท ฉลอง มองว่า พอผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้าไปข้างในสนามบิน แล้วแกนนำไม่สามารถคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ เพราะขณะนั้นได้ปลุกม๊อบกันมาเต็มทีแล้ว จนเข้าไปสนามบิน

“ผมคิดว่าการยึดสนามบินเป็นการกระทำที่เกินไป แม้ความขัดแย้งการเมืองจะเป็นเรื่องปกติ การชุมนุมเกิดขึ้นได้ แต่การยึดสนามบินไม่ควรเกิดขึ้นอีก”

พลตำรวจโท ฉลอง  เห็นว่าการชุมนุมในครั้งนั้นเป็นบทเรียนของประเทศไทยในการยึดสนามบิน เพราะสร้างความเสียหายมหาศาสลของประเทศชาติ ทั้งชื่อเสียงทรัพย์สินประเทศ และการเสียชื่อเสียงสำคัญ เนื่องจากกระทบความเชื่อถือเชื่อมั่น ในต่างประเทศ และสิ่งที่ได้แค่การยุบพรรคการเมืองและ ปลดนายกรัฐมนตรีออกไปเท่านั้น จึงถือว่า เป้าหมายไม่คุ้มค่าเลย

อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอกฉลอง บอกว่า รู้สึกดีใจที่เหตุการณ์วันนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีการใช้ความรุนแรง เพราะคนไทยด้วยกันไม่ควรจะทำร้ายกัน ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนอยากใช้ความรุนแรงกับคนไทยให้กลายเป็นความรู้สึกผิดใน ชีวิต