นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงถนนข้าวสาร พร้อมด้วย น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต1 พรรคเพื่อไทย เดินชิมสตรีทฟู้ด โดยชิมเนื้อจระเข้ย่าง ดักแด้ทอด พร้อมทั้งพบปะนักท่องเที่ยวและผู้ค้า จากนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า สตรีทฟู้ดสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะที่ถนนข้าวสารสร้างมูลค่าได้ถึงเดือนละประมาณ 60 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหลังจากลงพื้นที่พบว่า มีนักท่องเที่ยวน้อยลง อาจจะด้วยภาพรวมของเศรษฐกิจหรืออาจมีผลจากการจัดระเบียบ ส่วนอาหารการกินพบว่ายังไม่มีความหลากหลายเพียงพอ และโซนนิ่งยังจัดไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งต่างจากที่ประเทศไต้หวันที่มีการจัดอย่างเป็นระเบียบแบ่งโซนนิ่งอย่างชัดเจน ซึ่งอาจจะมีการนำมาประยุกต์ รวมถึงการนำครีเอทีฟเข้ามาเพิ่มความสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยว

เมื่อถามถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณในช่วงนี้ เป็นการซื้อเสียงหรือไม่ นายชัชชาติ เห็นว่าการใช้งบในช่วงนี้ผิดแปลกจากรัฐบาลทั่วไป เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว ส่วนตัวมองว่ามันผิดปกติและมีข้อกังขา ดังนั้นก็ต้องให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่าเป็นการซื้อเสียงหรือไม่ อย่างไรตามรัฐบาลเองก็ต้องระมัดระวังในการใช้เงินในช่วงนี้

ส่วนกรณีมีการเผยแพร่เอกสารการเกณฑ์คนในหลายจังหวัดนั้นเห็นว่าก็ต้องเป็นเรื่องที่หน่วยงานต้องตรวจสอบ และเห็นว่าอาจจะไม่ได้สัมผัสปัญหาอย่างแท้จริง ควรลงพื้นที่เพื่อรับฟังเสียงสะท้อน เพื่อจะหาทางออกให้ประชาชน

ส่วนกรณีเอกสารลับกองทัพภาค 1 หลังจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ออกมาระบุว่าเป็นเอกสารปลอมนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นหน้าที่ในส่วนข้าราชการที่ต้องตรวจสอบ อย่างโปร่งใสและมีความรวดเร็วเหมือนกรณีอื่น และฝากให้กกต.ปฏิบัติหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรี ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่ได้กังวลว่าจะมีงูเห่าในสภา ตามที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติออกมาเตือน เพราะเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่มีอุดมการณ์อยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ‘ชัชชาติ’ นั่งวินฝ่ารถติด ลุยหาเสียง ‘ย่านราชเทวี’