ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงดิจิทัลฯ ผนึกกว่า 15 พันธมิตร เดินหน้านโยบายเร่งด่วนด้านดิจิทัลเพื่อความมั่นคง หาแนวทางในการจัดตั้งศูนย์เฟก นิวเซ็นเตอร์ เน้นสื่อสารข่าวการเตือนภัยพิบัติและข่าวลวงที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยในการประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมว่า เป็นการเร่งรัดนโยบายด้านการส่งเสริมความมั่นคงทางดิจิทัล มุ่งเน้นด้านการเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง โดยจะตั้งหน่วยงานศูนย์เฟก นิวส์เซ็นเตอร์ (Fake News center)เน้นสื่อสารข่าวการเตือนภัยพิบัติและข่าวลวงที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การหลอกลวงให้ลงทุน การขายสินค้าอันตรายและผิดกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และลดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องซึ่งปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

รวมถึงเร่งรัดหามาตรการในการจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในด้านต่างๆ กับภารกิจด้านการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัลและอาชญากรรมออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสูงมาก โดยมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 54 ล้านคน ไลน์ 42 ล้านคน ทวิตเตอร์ 12 ล้านคน ซึ่งการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของประชาชนได้ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณี และมีความข้อแย้งต่อกฎหมายและกฎระเบียบของประเทศไทยในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาท   กฎหมายด้านการจัดเก็บภาษี กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

“ผมจะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานจัดตั้งศูนย์เฟคนิวส์เซนเตอร์ จะต้องหามาตรการและแนวทางในการจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในด้านต่างๆ โดยได้หารือร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆกว่า 15 หน่วยงาน อาทิ กรมสรรพากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม กองทัพบก ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นการหาทางร่วมมือทำงาน ทุกหน่วยงานจะมาร่วมสะท้อนแนวคิดการขับเคลื่อนของประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการใช้สื่อ Social Media ที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยในบริบทของประเทศไทยควรมีแนวทางในการสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ตลอดจนความมั่นคงของประเทศไทย โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมายไทย เพื่อเป็นการปกป้องเด็กและเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส ประชาชนทั่วไป และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศโดยรวม” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคข่าวสารของพี่น้องประชาชนเปลี่ยนแปลงจากยุคก่อนสมัยก่อนมาก ประชาชนใช้เวลาในการเข้าถึงข่าวสารได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ กระทรวงดีอี ตั้งใจบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะตั้งคณะกรรมการโดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อทำงานและศึกษาถึงกรอบแนวทางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. กฎหมายต่างๆที่แต่ละหน่วยงานถืออยู่ เพื่อผลักดันให้เกิดศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ อย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือนหลังจากนี้